Skip to main content

10 กันยายน 2552


น้องคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกว่า “มีเรื่องตลกเศร้ามาเล่าให้ฟัง”

ฉันหัวเราะ ไม่อยากฟังเธอเล่าอะไรเลยเพราะกำลังเจ็บหูอย่างแรง กำลังจะไปหาหมอ แต่เธอรีบบอกก่อนว่า
พี่ยังไม่รู้ใช่ไหม ลุงหมื่นแกฝายพญาคำ กับพ่อหลวงสมบูรณ์ ผู้ช่วยแกฝาย เขาเซ็นยินยอมให้กรมชลประทานสร้างประตูระบายน้ำแล้ว”

 

 

อะไรนะ”

ทางนั้นเขาบอกว่า จะไม่ทุบฝายเก่า ปล่อยให้ล่มสลายไปตามกาลเวลา”

ก็เป็นเรื่องเก่า เหตุผลนี้กรมชลฯใช้มานานแล้ว”

ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ได้ด้วยกลจริง ๆ สร้างประตูระบายน้ำแล้วทำให้ฝายพังเป็นเรื่องง่ายและเมื่อสร้างประตูระบายน้ำแล้ว ฝายก็ไม่มีความหมายใดๆ เพราะในปีแรกกรมชลต้องพยายามสุดฤทธิ์ที่จะดูแลระบบน้ำให้ดี แต่ที่หน้าแปลกก็คือ แกฝายกับผู้ช่วยที่ยืนยันมั่นเหมาะว่า ไม่เห็นด้วยกับการสร้างประตูระบายน้ำ เชียงใหม่ลำพูนเหมาะสมกับการใช้น้ำในระบบเหมืองฝาย พูดถึงขั้นจะเกิดสงครามแย่งชิงน้ำ”

อือ แล้วผู้ช่วยแกฝายแกว่าไง”

แกว่า เขาจะไม่ทุบฝาย เขาจะตั้งคณะกรรมการ 18 คน และทำเพื่อพ่อหลวง”

 

 

ฉันลืมเรื่องปวดหัวไปชั่วขณะ คิดถึงหนังสือเล่มที่ตัวเองเขียน ฉันเขียนหนังสือโกหกเล่มหนึ่ง ชื่อว่า เมืองแม่น้ำในหุบเขา ฉันไม่ได้เขียนคนเดียว ฉันชวนคนอื่น ๆ มาร่วมเขียนด้วย ในหนังสือเล่มนั้น พูดถึงการต่อสู้ของชาวบ้านยืนหยัดที่จะใช้น้ำในระบบเหมืองฝายถึงขั้นประกาศตาย มีพิธีกรรมสาปแช่ง

 

อวสานแกฝายคนสุดท้าย สิ้นสุดการจัดการน้ำโดยระบบเหมืองฝายจริง ๆ”


สามปีแห่งการต่อสู้ที่ลากกันมายาวนานก็สูญเปล่า ชาวบ้านเขาก็คงเหนื่อย เขาต่อสู้กับข้าราชการ ระบบราชการที่มีเครื่องมือ มีเงินเดือน ในขณะที่ชาวบ้านมีอะไร ออกมาก็ต้องหยุดงาน เสียเงินค่าเดินทางมาเอง และในที่สุดก็ให้เขาทำลองดู


พี่กำลังคิดถึงหนังสือที่เราเขียน”

เอาไปเผาแล้วกันพี่” เธอพูดพลางหัวเราะ “ในสุดมันก็เหมือนกับไนท์ซาฟารีและพืชสวนโลกนั่นแหละ แม้จะมีผู้คัดค้านมากมาย แต่ในที่สุดคนในพื้นที่ก็อยากได้เพราะคิดว่าจะสร้างรายได้ให้กับเขา โดยที่ไม่ฟังว่าจะสูญเสียป่าไปเท่าไหร่ เสียงบประมาณไปเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้จะกลายเป็นป่าช้าสัตว์ไปแล้ว รวมทั้งพืชสวนโลกก็ฮือฮาอยู่ปีเดียว แต่ประตูระบายน้ำนอกจากงบประมาณจำนวนมหาศาลแล้ว มันส่งผลมากกว่านั้น และไม่ใช่แค่เหมืองฝายในระบบการเกษตรแต่มันส่งผลต่อมีน้ำปิงและการจัดการน้ำทั้งระบบ” เธอว่า


ไม่เป็นไร เราจะได้ล่องเรือสำราญกันสบาย ๆ ได้ข่าวมาว่า เขาจะทำตลาดน้ำด้วย” ฉันบอกเธอ

แต่ประตูระบายน้ำมันไม่ได้เกี่ยวข้องหรือส่งผลกระทบต่อเหมืองฝายเท่านั้น แต่มันเกี่ยวข้องกับคนอื่น ๆ ด้วย”

ต้องยอมรับว่า เธอมีใจจริง ๆ และใจแกร่งเธอยังไม่เชื่อว่าทุกอย่างจะจบ

ฉันบอกน้องว่า “ตอนนี้พวกเอ็นจีโอ เขาหันพึ่งธรรมะกัน เพื่อความปลอดภัย ธรรมะจะสอนให้เรามีเมตตาให้อภัย ตามดูใจตัวเอง”

พี่พูดจริงหรือพูดเล่น” เธอถาม

 

 

วางหูโทรศัพท์เธอไป เพราะมีอีกสายเข้ามา เป็นเพื่อนในหน่วยงานสาธารณสุขที่สนใจเรื่องนี้

ฉันบอกเธอว่าฉันรู้เรื่องแล้ว

ช่างมันเถอะนะ เราก็ได้ทำแล้ว ได้พยายามแล้วเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตามยังรู้สึกว่าไม่เสียชาติเกิด” เธอว่าอย่างนั้น

 

 

 

ฉันนั่งมองฝาพนัง เห็นจิ้งจกกำลังจ้องมองแมลง มันเล็งเป้าและจู่โจม แมลงเข้าไปอยู่ในปากมัน หน้าที่ของมันคือกินแมลงและขี้ลงมาบนพื้น แล้วก็จากไป ขี้ดำเกลื่อนพื้นสีแดง ฉันเบื่อที่จะกวาดแต่ต้องกวาดเพราะมันเป็นบ้านของฉัน

 

 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
“รู้สึกว่า ปีนี้ ไม่ค่อยจะมีความสดชื่น รื่นเริง  ความรื่นเริงและความสุขดูเหมือนจะหายไป ลุงรู้สึกเช่นนั้นไหม”ลุงว่า ใครมันจะมารื่นเริงอยู่ได้ในสถานการณ์เมืองไทยเป็นเช่นนี้ หมายความว่า น่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ โดยเฉพาะการเมืองที่สับสนและดูไม่กระจ่างใส  เป็นความเครียดทางสังคม เครียดจากการปกครองโดยทหารที่ลึกลงไป และเข้าใจว่า แม้จะยอมรับก็ยอมรับแบบหวานอมขมกลืน และยิ่งเครียดเข้าไปอีกเมื่อมีการเลือกตั้งในช่วงใกล้ปีใหม่ ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นของฝ่ายไหนก็ไม่น่าจะทำให้ใครสบายใจได้ เมื่อประชาชนถูกแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนมากขึ้น…
แพร จารุ
  ฉันรู้สึกว่ามันเป็นช่วงปีใหม่ที่ไม่รู้สึกสดชื่นนัก ดูเหงา ๆ วังเวง ในท่ามกลางงานเลี้ยงรื่นเริงที่มีอยู่และเป็นไปตามวาระของมัน ความรู้สึกอย่างนี้มันอยู่ลึกลงไปแต่ฉันสัมผัสได้อย่างเย็นเยียบจริง ๆ ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกหรือไม่ หรือว่าฉันรู้สึกอยู่คนเดียว ว่าเป็นปีใหม่ที่ไม่มีความรื่นเริงอยู่จริง มันหดหู่อยู่ภายในหัวใจอย่างไรไม่รู้ คล้ายรู้สึกว่า ความเศร้ามารอคอยเคาะประตูอยู่หลังบ้าน... หลังจากงานรื่นเริงจบลงฉันถามตัวเองหลายครั้งว่าความรู้สึกนี้เป็นจริง หรือว่าฉันกำลังจะป่วยด้วยอาการกลัวหรือกำลังจะเป็นโรคซึมเศร้า อะไรทำให้ฉันคิดอย่างนั้น หรือเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจของตัวเอง…
แพร จารุ
ฉันได้รับหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า อาหารบ้านฉัน  เป็นสูตรอาหารพื้นถิ่น ของกินจากป่าหลังบ้าน และที่สำคัญกว่านั้น เขียนว่าอร่อยไปถึงหัวใจ “ฉันเติบโตมาจากอาหารที่หลังบ้าน เธออยากรู้ไหมว่า อาหารบ้านฉันอร่อยแค่ไหน  เธอไม่ต้องกลัวหรอก บ้านฉันมีอาหารมากมาย กินกันอย่างไม่หมด” หนังสือเล่มนี้ มีผู้ร่วมดูแลหรือผู้ร่วมทำงานด้วย เขาคือ ธนภูมิ อโศกตระกูล เป็นคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านอาหาร โดยเฉพาะอาหารสุขภาพ การกินอยู่แบบง่าย ๆ เช่น จานอร่อยปลอดเนื้อ มหัศจรรย์แห่งเต้าหู้ เจไม่จำเจ เป็นต้นธนภูมิ อโศกตระกูลเขาเล่าว่า “ได้เข้ามาเที่ยวในแม่เหียะใน เมื่อประมาณสองปีที่แล้ว…
แพร จารุ
“หนาวไหม หนาวหรือยัง”“หนาวแล้ว เชียงไหมหนาวแล้ว”“ฉันจะไปเชียงใหม่”บทสนทนาหนึ่ง ที่เราได้ยินได้ฟังอยู่เสมอ รายงานข่าว ขณะนี้ยอดดอยอากาศหนาวมาก โดยเฉพาะดอยสูงอุณหภูมิติดลบแล้ว เกิดน้ำค้างแข็ง มีคำถามว่า นักท่องเที่ยวหรือคนที่จะมาเชียงใหม่ควรได้รับรู้ข่าวคราวอะไรบ้างนอกจากว่า หนาวแล้วหรือหนาวกี่องศา ชายคนหนึ่งพูดขึ้นในยามบ่าย เขาพูดต่อว่า ถ้าอยากให้คนอื่นที่มาเที่ยวเชียงใหม่ รู้ว่าเขาควรจะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลเมืองและรักเมืองนี้ เราต้องให้ข่าวสารเขามากกว่านี้  เราควรต้องทำงานกับสื่อให้มากว่านี้  เขาเป็นหนึ่งในคนทำงานภาคีฯการมุ่งเน้นให้คนเชียงใหม่ดูแลเมืองเชียงใหม่…
แพร จารุ
มีเพื่อนผู้หวังดีส่งเมลมาว่า ให้เขียนเรื่องดี ๆ เพื่อเมืองเชียงใหม่บ้าง ทำไมถึงมองไม่เห็นความงามของเมืองบ้าง  ฉันจึงเขียนบทความชิ้นนี้ขึ้นมา               1ถ้ามองลงมาจากฟ้า เราจะเห็นเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ตรงกลาง มีป่าดอยสุเทพอยู่ทางตะวันตก มีแม่น้ำปิงไหลผ่านทางตะวันออก  ช่างเป็นเมืองงดงามที่สมบูรณ์ เล่ากันว่า เดิมทีผู้คนในเมืองนี้อยู่กันอย่างสงบสันติ แต่แน่นอนเมืองที่ดีงามเช่นนี้ ย่อมมีผู้คนต้องการ เข้ามาอยู่มาครอบครอง โดยเฉพาะทรัพยากรธรรมชาติบนดอยสูง หลายร้อยปีต่อมา เมืองเชียงใหม่เติบโตอย่างรวดเร็ว…
แพร จารุ
ขอบอกก่อนว่า เป็นเรื่องเล่าที่ไม่มีสาระอะไรเลย เล่าเรื่องนี้ เพราะวันพิเศษเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ถือว่า เป็นการผจญภัยในดินแดนที่รื่นรมย์เลยทีเดียวฉันจะเรียกเขาว่า แขกพิเศษ เพราะเป็นการมาเยือนแบบไม่คาดคิดมาก่อน และต่างมาในวันเดียวกันด้วย อีกทั้งไม่ได้นัดหมายมาล่วงหน้า ต่างมาแบบตั้งตัวไม่ติดทั้งนั้น แขกคนที่หนึ่ง เขาเดินทางมาด้วยรถมอเตอร์ไชค์ มาถึงก่อนที่เจ้าของบ้านจะทันตื่น ได้ยินเขาส่งเสียงตะคอก เจ้าสองตัวแม่ลูก ที่ทำหน้าที่เฝ้าบ้าน มันเห่าเสียงแหลมเล็กตามแบบของหมาเล็ก และยังเยาว์ ฉันว่าคนเลี้ยงหมาทุกคนไม่ชอบให้ใครตะคอกหมา และยินดีที่มีคนรักหมาของตัวเอง…
แพร จารุ
ไม่รักไม่บอก  เออ...เหมือนมีใครมาพูดอยู่ข้างหู บอกว่า ฉันรักเธอนะจึงบอก แต่ว่าเรื่องที่ฉันจะบอกนั้น เธออาจไม่ชอบ เธออาจจะโกรธฉัน  แต่ที่ฉันต้องบอกเพราะว่า ฉันรักเธอและปรารถนาดีต่อเธอจริง ๆ “ฉันไม่บอกไม่ได้แล้ว”ถึงตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกรำคาญใจ พูดพร่ำอยู่ทำไม อยากบอกอะไรก็บอกมาเถอะ ใช่...ไม่รักไม่บอกค่ะ เป็นชื่อหนังสือเล่มเล็ก ๆ บาง ๆ มีการ์ตูนน่ารักๆ เปิดไปหน้าแรก ผู้เขียนบอกว่า ที่ทำหนังสือเล่มนี้ เพราะว่า ความสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นเรื่องน่ารัก มีเรื่องดีงามที่เขาค้นพบอยู่มากมาย เขาเล่าถึงเรื่อง เด็กชายคนหนึ่ง ตามแม่ไปซื้อของที่ร้านเกษมสโตร์ เขากินไอศกรีมรอแม่…
แพร จารุ
เรื่องขยะ ๆ มันโดนใจใครต่อใครหลายคน หลังจากที่เขียนเรื่อง แปดสิบบาทกับผู้ชายริมทางรถไฟ และในเรื่องมีขยะ ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แพร จารุ
“สุชาติ สวัสดิ์ศรี” ยืนล้วงกระเป๋าเสื้ออยู่ริมทางรถไฟ ในขณะที่รถไฟกำลังมา  เป็นภาพปกหนังสือ ฅ คน ที่ทำให้ฉันต้องนับเงินในกระเป๋าให้ครบแปดสิบบาท ความจริงหนังสือเขาไม่แพงหรอก เพียงแต่ว่า เงินสำหรับบ้านฉันมันหายากมาก หรือจะเรียกให้ถูกก็คือฉันไม่ค่อยหาเงิน ดังนั้นเมื่อไม่หาเงินก็ต้องใช้เงินน้อย ๆ หรือไม่ใช้ไปเลยถ้าไม่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ แม้ว่าการจะซื้อหนังสือถือเป็นความจำเป็นหนึ่ง แต่ก็ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันในเนื้อหา ดังนั้น ถ้าร้านไหนห่อพลาสติกอย่างดีเปิดไม่ได้ ก็ผ่านเลย หนังสือเล่มนี้ก็ห่อพลาสติกอย่างดีเหมือนกัน แต่ก็รีบซื้อ  เพราะทั้งรถไฟและคุณสุชาติ  สวัสดิ์ศรี…