Skip to main content

 

บ้านกลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
30 สิงหาคม 2553             
คุณหญิงที่รัก
 
ฉันเพิ่งกลับมาจากทะเลกลาย
ฉันไม่แน่ใจว่า เคยพาคุณไปเดินชายหาดสักครั้งไหม หาดที่ทะลกลายเป็นหาดกว้างที่เดินได้ไกลจริง ๆ เพราะไม่มีอะไรขวางหาด ไม่มีใครปักเขตแดนว่าเป็นของใคร เธอจะเดินได้นับสิบกิโลเลยทีเดียว เดินจากปากแม่น้ำกลายไปเรื่อย ๆ

ปีนี้ฉันกลับไปที่ทะเลกลายหลายครั้ง กลับไปเพราะรู้สึกว่าไม่นานทะเลกลายจะเปลี่ยนไป ในระหว่างที่เดินอยู่ที่นั่น ฉันคิดถึงคนใกล้ตาย

ถ้าเราใกล้ตายเราจะทำอะไร
บางคนอาจจะมีคำตอบว่า ไม่ต้องทำอะไรหรอกเพราะเราใกล้ตายแล้ว อยู่ไปไม่นาน เรามาเสพสุขกันเถอะ อะไรที่สนุกสนานจงทำ คนอยู่ข้างหลังช่างมันไม่ใช่ฉัน

บางคนอาจจะมีคำตอบว่า ต้องทำอะไรอีกมากมายเพราะตายไปแล้วจะไม่ได้ทำ และอย่างไรก็จะตายแล้ว ต้องทำอะไรดี ๆ ก่อนตายเพื่อคนที่อยู่ข้างหลัง
               
เมื่อก่อนเราก็อยู่ ๆ ไป เหมือนไม่รู้ค่า แต่เมื่อมันกำลังจะเปลี่ยนไป ฉันบอกไม่ถูกจริง ๆว่ารู้สึกอย่างไร มันเกินกว่าคำอธิบายหรือเรียกว่าคำนับพัน ๆ คำก็บอกไม่หมด

บางทีฉันก็ขอโทษทะเลอยู่ในใจ ขอโทษที่ฉันละเลย ขอโทษที่ไม่รู้คุณค่า ขอโทษที่ฉันเป็นคนตัวน้อยนิดเกินกว่าจะดูแลทะเลกว้างเอาไว้ได้ ทั้งที่ฉันใช้ประโยชน์จากทะเลมาห้าสิบปีเท่ากับชีวิตฉัน ส่วนพ่อแม่ปู่ยาตายายของฉันก็ใช้ประโยชน์มานับร้อยปี

ฉันขอโทษพื้นทราย และผักบุ้งทะเล กุ้งเคยตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในทะเล นับต่อแต่นี้ไปเผ่าพันธุ์ของเจ้าก็จะหายไป เพราะน้ำทะเลไม่สะอาดเหมือนเก่า ทันทีที่มีการสร้างฐานปฏิบัติการขุดเจาะน้ำมันโดยบริษัทข้ามชาติที่ชื่อเซฟรอน
คุณหญิงคงจะสงสัยว่ามันเป็นอย่างไรใช่ไหมคะ โครงการท่าเรือเซฟรอนสร้างฐานปฏิบัติการเพื่อการขุดเจาะน้ำมันในอ่านไทย

เรื่องแรกที่น่าตกใจคือ เขาใช้พื้นที่ถึง
395 ไร่ มีโครงการ 36 ไร่ มากไหมคะ และความยาวที่ติดชายหาด 1,069 เมตร ความยาวหน้าท่า 300 เมตร  พอจะนึกภาพออกไหม มันยื่นออกไปนอกฝั่ง 400-600 เมตร

มีอาคารสำนักงาน อาคารซ่อมบำรุง อาคารเก็บวัสดุ กอง
วัสดุ พื้นที่เก็บสารเคมีและของเสีย ลาดจอดรถ อาคารเก็บน้ำ แหล่งน้ำ
และสร้างกำแพงกันคลื่นในทะเล เขื่อนกันคลื่นด้านใต้ ยาว 223 เมตร เขื่อนกันคลื่นด้านเหนือ ยาว 883 เมตร ยื่นออกจากแนวชายหาดประมาณ 531 เมตร

ทะเลบ้านฉันกำลังจะเปลี่ยนไป พื้นทรายที่ขาวสะอาดก็จะมีดินโคลน พวกขุดเจาะน้ำมันบอกว่า เขาจะกวาดดินโคลนทุกปี โดยใช้ตาข่ายดัก โอ...แล้วเขาจะเอาดินโคลนที่เป็นตะกอนไปทิ้งที่ไหน เขาคงไม่เอาไปทิ้งที่อเมริกาซึ่งเป็นบริษัทแม่ ใช่แล้ว เขาบอกว่าจะเอาไปทิ้งในทะเลตรงที่ลึกมาก ๆ

ทำเช่นนั้น ทะเลก็สกปรกเช่นเดิม บริษัทได้สัมปทานจากรัฐบาลสามสิบปี แต่ฉันว่าแค่สิบปีสิ่งมีชีวิตก็อยู่ไม่ได้แล้ว ทั้งคนและสัตว์ และไม่นานบริษัทก็ถอนตัวออกไป

ถามว่าคนท่าศาลาทั้งอำเภอได้รับผลกระทบไหม แน่นอนได้รับ คนที่อยู่จังหวัดใกล้เคียง ทุกคนได้รับหมด แต่มากน้อยต่างกัน คนที่กลายได้รับมากหน่อยเพราะอยู่ใกล้ คนบ้านกลาย บ้านฉันได้รับมากหน่อย อยากรู้ไหมได้รับอะไรบ้าง

อันดับแรก ระหว่างก็สร้างก็หนักหนาแล้ว ทั้งฝุ่นทั้งเสียงจากรถ
อันดับที่สองต่อไปเมื่อสร้างเสร็จมีคนงานสามพันคนไปทำงานในทะเลด้วย คนบ้านกลายจะได้ยินเสียงรถวิ่งทั้งวัน
อันดับต่อมา คนบ้านฉันจะไม่ได้นอนฟังเสียงคลื่นอีกแล้ว แต่ต้องฟังเสียงการทำงานของท่าเรือซึ่งดังแค่ไหนไม่รู้

ร้ายสุดสารเคมีพวกสารตะกั่ว
จากการเชื่อต่อการเผาไหม้นั่นเล่า และสารเคมีอันตรายจะถูกขนส่งมาไว้ที่โกดังชายทะเลซึ่งเรายังไม่รู้ว่ามีสารเคมีอะไรบ้าง อันตรายแค่ไหน และยังไม่เป็นที่เปิดเผย ว่าขนสารเคมีอย่างไร (มีข่าวว่าขนโดยทางรถ โอ...ถ้าเกิดอุบัติเหตุล่ะ)
            
คุณหญิงที่รัก แค่นี้คุณก็เห็นแล้วใช่ไหมว่ามันเป็นนรกสำหรับคนเป็นแค่ไหน
บริษัทขุดเจาะน้ำมันได้พาอะไรมาบ้าง หลังจากนี้มันจะมากันเป็นพรวนเลยเธอ เป็นเมืองอุตสาหกรรม หรือนิคมอุตสาหกรรม มีโรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งเป็นพลังงานสกปรกที่สุดแล้ว และมีอุตสาหกรรมปิโตรคมี
 
บริษัทขุดเจาะน้ำมันพวกนี้มีหลายบริษัท  ร่ำรวยมาก และทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติมาเยอะแล้ว ทำน้ำมันรั่วมาหลายแห่ง เธอเคยได้ยินข่าวน้ำมันรั่วที่อ่าวเม็กซิโกไหม นั่นเป็นอีกบริษัทหนึ่ง และมีฐานเจาะน้ำมันระเบิดด้วย อย่างนี้เราจะไว้วางใจได้อย่างไร
 
นี่เป็นปัญหาเดียวกันทั้งภาคใต้ ตั้งแต่สตูล สมุย ท่าศาลา ตามแผนพัฒนาภาคใต้ มันคือการเปลี่ยนทะเลไทยเลยทีเดียว
 
 
                 
ฉันส่งภาพมาให้เธอด้วย นี่คือภาพทะเลกลายที่สวยงาม ทะเลสวยขนาดนี้ มีเหลืออีกกี่แห่งเอาไว้ให้โลกชื่นชม เอาไว้เป็นที่อยู่ของปู ปลา และตัวเคย หรือกุ้งตัวเล็ก ๆ ที่เขาเอามาทำกะปิกันดีกว่า

 
 

ภาพนี้ มุมหนึ่งที่ทะเลกลาย เป็นที่ขึ้นเรือปู และอยู่ใกล้มัสยิด บ้านในไร่ สวยงามมาก มีทุ่งดอกแพงพวยสีขาวเต็มหาดเลยค่ะ น่าเสียดายมาก
ถ้ามันจะหายไปอีกทั้งปูที่ขึ้นมาจากทะเล หาดทรายขาว และทุ่งดอกไม้ รวมทั้งมัสยิดใกล้ทะเลด้วย เพราะเรายอมให้เซฟรอนเข้ามาทำท่าเรือฐานปฏิบัตการณ์ขุดเจาะน้ำมันพร้อมกับนิคมอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
แล้วฉันจะเขียนมาเล่าต่อนะคะ

แพร จารุ
สิงหาคม 2553
 
 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
“จึงขอตั้งจิตมั่นว่าจะพูดแต่ความจริงด้วยถ้อยคำที่ก่อให้เกิดความมั่นใจ ความเบิกบาน และความหวัง โดยไม่กระพือข่าวที่ตัวเองไม่รู้แน่ชัด รวมทั้งไม่วิพากษ์วิจารณ์ หรือกล่าวโทษในสิ่งที่ตัวเองไม่แน่ใจ” ฉันชอบถ้อยคำนี้มาก เป็นถ้อยคำ ที่เพื่อนนำมาฝากหลังจากที่เธอกลับมาจากภาวนา เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ... เพื่อนของฉันกลับมาจาก “ภาวนา” แบบหมู่บ้านพลัม เธอว่าดีงามมาก ใช้กับชีวิตได้ เธอพูดถึง ข้ออบรมสติ 5 ประการ แต่เธอเน้นข้อฝึกอบรม ข้อที่ 4 เธอเขียนส่งมาให้ฉันอ่าน ฉันคิดว่าเธอคงอยากให้ฉันตระหนักรู้ หรือไม่เธอก็บอกอ้อม ๆ ว่า ฉันเป็นคนที่ควรจะปฏิบัติเพราะฉันมีปัญหาในข้อนี้…
แพร จารุ
ระหว่างการพูดคุยกับเพื่อน เพื่อนนักเขียนของฉัน ไปอยู่ไกลถึงลอนดอน ช่วงที่ผ่านมาเธอกลับบ้านเพื่อมาส่งแม่เดินทางไกล เพราะครั้งนี้แม่ไปแล้วจะไม่กลับมาอีกเลย และไม่รู้ว่าเส้นทางสายยาวไกลของแม่อยู่ที่ไหน แต่สำหรับเธอ เชื่อว่า จะไปพบกันที่พระเจ้า เราไม่ได้พบหน้ากันมานาน ได้แต่คุยโทรศัพท์กัน ช่วงแรกเพื่อนนักเขียนของฉันนั่งทำงานเขียน นั่งวาดภาพ และปลูกต้นไม้อยู่ในเรือนกระจกอยู่ที่บ้าน ต่อมาเธอไม่เลือกที่จะนั่งเขียนหนังสืออยู่ที่บ้านแล้ว เธอไปทำงานที่พักคนชรา ทำงานอยู่กับคนแก่ ไม่ใช่เรื่องโรแมนติกแต่เป็นเรื่องจริงของชีวิต เธอมีการงานที่มีความเศร้า ความตายของคนแก่ที่นั่นอยู่เสมอ
แพร จารุ
ยามเช้าได้อ่านงานของดอกสตาร์ เธอเขียนจั่วหัวว่า เชียงใหม่แพ้ซ้ำซาก Chiangmai lost her beauties. ข้อเขียนของเธอบอกว่า ผังเมืองฉบับใหม่ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วง ๙๐ วัน ที่คนได้รับความเดือดร้อนจากผังเมืองฉบับนี้จะยื่นคำร้องเพื่อคัดค้าน ถ้ารัฐบาลไม่รับฟังและผังเมืองฉบับนี้ผ่าน โฉมหน้าเมืองเชียงใหม่คงจะอัปลักษณ์สุด ๆ รอวันตายลูกเดียว มีเรื่องฝายทั้งสามแห่งคือ ฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้งและฝ่ายท่าศาลาอีก ของเก่าแก่ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษสร้างไว้ให้ลูกหลานชาวล้านนาได้ประโยชน์กลับจะรื้อทิ้งโดยเห็นแก่ประโยชน์เล็กน้อยที่เทียบไม่ได้เลยกับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองกับลูกหลานในอนาคต“…
แพร จารุ
พ่อหมื่นแก่ฝายคนสุดท้าย นัดพบที่หน้าฝายพญาคำ ในวันเสาร์ที่ 13 กันยายน เวลา 10.00 น. ร่วมทำพิธีสืบชะตาอีกครั้ง ชาวบ้านยอมให้มีการสร้างประตูระบายน้ำแล้ว แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามทุบห้ามรื้อฝายโบราณทั้งสามฝาย หรือทดลองใช้ประตูระบายน้ำก่อนสองปี ว่าสามารถทดน้ำเข้าเหมืองเพื่อส่งเลี้ยงไร่นาได้หรือไม่ คือให้ลองดูว่าประตูน้ำทำหน้าที่แทนฝายหินทิ้งเก่าแก่ได้ดีแค่ไหน การจัดการน้ำด้วยระบบเหมืองฝายจะถูกเปลี่ยนมือ จากการจัดการโดยชาวบ้านในระบบแก่ฝายมาเป็นจัดการโดยรัฐชลประทาน ชาวบ้านผู้ใช้น้ำคิดอย่างไรถึงยินยอมทั้งที่ยื้อกันมานาน ถ้านับตั้งแต่ช่วงแรกที่จะมีการรื้อก็เกือบสิบปีแล้ว
แพร จารุ
ฉันได้เดินทางมายังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งใจจะมาเที่ยวตามป่าเขาแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ   รัฐบาล โดยนายอำเภอ และอุทยานแห่งชาติ จัดให้มีงานบวชป่า และส่งมอบอาวุธปืน มีหนังสือจากหน่วยงานของรัฐมาถึงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในเย็นวันหนึ่ง มีเสียงพูดกันเบา จับใจความได้ว่า พวกเขากังวล เพราะพวกเขาไม่มีปืนจะไปมอบ ฉันฟังอย่างไม่เข้าใจ ไม่รู้พวกเขาว่าจะกังวลทำไม ไม่มีก็ไม่ต้องมอบ บอกไปว่าเราไม่มีก็จบ ก็ไม่มีจะเอามาจากไหน
แพร จารุ
 “ไม่นานคนก็ตายกันหมดโลกแน่ ๆ”หญิงสาววัยเพิ่งผ่านเลขสามพูดขึ้นก่อนล้มตัวลงนอน “พี่เชื่อไหม ไม่นานผู้คนจะตายหมดโลก” เธอพูดอีกครั้ง “อะไรทำให้เธอคิดเช่นนั้น” ฉันถามออกไปด้วยความขลาดกลัว มานอนกลางป่ากลางเขาแล้วพูดถึง เรื่องความตาย  ไม่อยากจะฟังคำตอบจากเธอ รีบเตรียมถุงนอน พร้อมที่จะล้มตัวลงนอนใกล้ ๆ เธอ คืนนี้เราเลือกที่จะไม่นอนในบ้านสบาย ๆ แต่เลือกที่จะมานอนกันในป่าเปลี่ยนบรรยากาศ   เธออธิบายต่อว่า เมื่อกลางวันได้ยินข่าวแผ่นดินไหวที่เชียงราย 3.5 ริกเตอร์  เมื่อแผ่นดินไหวที่เชียงรายได้ ก็ไหวที่เชียงใหม่ได้ หรือที่อื่น ๆ ได้ และมันคงจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “อือ...ก็น่าจะจริง…
แพร จารุ
 เธอได้ยินไหม  คนบ้านฉันเขาตัดไม้กันอยู่ เสียงดังกรูด ๆ ๆ แล้วไม่นานก็ได้ยินเสียงไม่ล้ม ฉันฟังจนแยกออกแล้วว่า เสียงที่ล้มลงมาต้นเล็กต้นใหญ่ขนาดไหน ฉันบอกเพื่อนไปเช่นนั้น ด้วยเราพูดกันอย่างไม่เห็นหน้าจึงไม่รู้ว่า เพื่อนทำหน้าตาอย่างไร เธอคงคาดไม่ถึงว่าได้ยินเสียงตอบเช่นนี้ เธอคงผิดหวังมากทีเดียวเพื่อนโทร.มาบอกให้ฉันช่วยเขียนเรื่องการปลูกต้นไม้ เป็นโครงการหนึ่งของมูลนิธิที่เธอทำงานอยู่ ชื่อว่า โครงการป่าเมือง หรือการปลูกต้นไม้ในเมืองนั่นเอง
แพร จารุ
ขอคั่นรายการหน้าโฆษณาหน่อยนะคะ บอกจริง ๆ ว่า ช่วงนี้รู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก คุณผู้อ่านรู้จักคำว่า โหวงเหวงไหม มันเป็นอาการซึม ๆ เศร้า ๆ และรู้สึกเบา ๆ ในหัวใจ  เมื่อทบทวนดูอาการแล้ว พบว่าน่าจะมาจากสภาพสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัว ซึ่งน่าจะเป็นอาการผิดปกติจากข่าว ช่วงนี้มีข่าวมีคนตายเป็นหมื่นเป็นแสน และยังหายสาบสูญไปอีกเท่าไหร่ไม่รู้ อีกทั้งยังบาดเจ็บรอคอยอยู่อีกมาก
แพร จารุ
“พี่มันน่ากลัวจริง ๆ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไม้พี่ไม้ ไม้เป็นหมื่น ๆ” เธอส่งเสียงมาเหมือนถูกผีหลอกกลางวัน“อยู่แดนสนธยาที่ไหน” ฉันถามกลับไปเพื่อให้ตัวเองตั้งสติหากมีเรื่องร้าย “ไม่ใช่ต้นไม้แต่เป็นไม้เป็นหมื่น ๆ ท่อนพี่ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย มันเยอะจริง เดี๋ยวจะถ่ายรูปส่งไปให้ดู บางต้นมีผ้าเหลืองผ้าแดงผูกโคนต้นด้วย” “ที่ไหน” “กิ่วคอหมาพี่ เขากำลังสร้างเขื่อนกิ่วคอหมา พี่รู้เรื่องนี้ไหม พูดแล้วขนลุกพี่ รอเดี๋ยว ๆ นะพี่นะจะส่งรูปไปให้ดู”“จ๊ะ แล้วเธอไปทำไม”“ขับรถผ่านมานะพี่  กลับมาจากลำปาง”เธอพูดหลายครั้งว่าเธอไม่เคยเห็นไม้เยอะขนาดนี้มาก่อนจริง ๆ และสงสัยว่าทำไมเขายังตัดไม้กันขนาดนี้…
แพร จารุ
เขาว่ากันว่า  เชียงใหม่เป็นเมืองแห่งธรรมชาติงดงาม เมืองวัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ จอดดูสักหน่อยซิเขาเล่ากันต่อว่า ช่วงสิบปีที่ผ่านมา เชียงใหม่เติบโตด้านการท่องเที่ยวสูงสุด ปีหนึ่งๆ มีคนมาเที่ยวเชียงใหม่มากมาย เชียงใหม่กลายเป็นเมืองที่ต้องรับภาระหาเงินทอง เมกกะโปรเจคขนาดใหญ่จึงเกิดขึ้นที่เมืองเชียงใหม่ว้าว! แล้วคนเชียงใหม่ คิดอย่างไรกับเมืองเชียงใหม่ หากไปถามคำถามนี้ ร้อยทั้งร้อยคนเชียงใหม่ต่างวิตกกังวล คนเชียงใหม่บอกว่า เมืองน่าอยู่นั้นคือเมื่อก่อน เมื่อก่อนซึ่งไม่นานเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้ คนเชียงใหม่ลำบากกับรถติดในเมือง คนเชียงใหม่กลัวน้ำท่วมเหมือนปี 2548 ฤดูร้อน…
แพร จารุ
เมื่อไม่นานมานี้ ฉันไปร่วมงาน เปิดตัวหนังสืออาหารบ้านฉัน ที่บ้านแม่เหียะใน หัวหน้าอุทยานดอยสุเทพ มาเปิดงาน ฉันฟังเสียงของท่านไม่ค่อยได้ยิน เพราะว่ายืนไกลและที่บ้านแม่เหียะใน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องใช้เครื่องปั่นไฟ เสียงเครื่องปั่นไฟดังมาก จึงไปถามชาวบ้านที่ตั้งใจไปฟังใกล้ ๆ ว่าท่านพูดอะไร แน่นอนชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่อุทยานเขาต้องตั้งใจฟังทุกอย่างที่เจ้าหน้าที่อุทยานพูด เพราะว่าชีวิตขึ้นอยู่กับอุทยานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  หรือเรียกว่าอยู่ภายใต้กฎหมายอุทยาน “ท่านพูดว่า ท่านเข้าใจว่าที่ทำหนังสือเล่มนี้ทำขึ้นมาเพราะต้องการที่อยู่ที่กิน” หญิงสาวคนหนึ่งบอกว่าท่านพูดเช่นนั้น และเธอรู้สึกดีใจมาก“…
แพร จารุ
ป้าของฉันเป็นผู้หญิงธรรมดามาก ไม่เป็นที่รู้จักของใคร  ฉันคิดว่าคนที่ป้ารู้จักมีแต่หลาน ๆ กับคนข้างบ้านเท่านั้น และคนที่รู้จักป้าก็เช่นกัน ป้าเป็นผู้หญิงธรรมดาจริง ๆ แต่ฉันอยากเขียนถึงป้า เพราะน่าจะมีแต่ฉันที่จะเขียนถึงป้า และฉันก็น่าจะเป็นหลานคนเดียวที่ไม่เคยได้ทำอะไรให้ป้าเลยนอกจากเขียนถึงป้า ใจหายเหมือนกันเมื่อคิดว่า นี่คือสิ่งแรกที่ฉันจะทำให้ป้า ป้าฉันไม่มีอะไรพิเศษเลยนอกจากเป็นคนดี มีจิตใจที่ดีงาม ตั้งแต่ฉันรู้จักเป็นป้าหลานมา ฉันไม่เคยเห็นป้าทำอะไรไม่ดีเลย ไม่ใช่แกเป็นป้าที่ดีของพวกหลาน ๆ แกเท่านั้น แต่เป็นเพื่อนบ้านที่ดีของเพื่อนบ้าน ชีวิตป้ามีความสุขมาก ฉันคิดว่าป้ามีความสุขทุกวัน…