Skip to main content


 


 

ผมต้องขออภัย
ที่เงียบหายไปค่อนข้างนานจนผิดปกติโดยมิได้บอกกล่าว เรื่องของเรื่องก็คือ ช่วงเวลาที่ผมเงียบหายไปจนถึงบัดนี้ ผมกำลังตกอยู่ในภาวะที่มีแต่เรื่องที่ต้องหมกมุ่นกับตัวเอง ตอนนี้หลายๆเรื่องกำลังคลี่คลายและพ้นผ่านไปแล้ว
 
เหลืออยู่เรื่องเดียวเท่านั้น
ที่ยังมิได้คลี่คลายและพ้นผ่าน และทำให้ผมต้องหมกมุ่นกับมันอยู่ นั่นคืองานแสดงดนตรีและบทกวีของผม ที่เพื่อนพ้องน้องพี่สายดนตรีและวรรณกรรมในจังหวัดเชียงใหม่ กำลังช่วยกันจัดให้ที่ร้านสุดสะแนน ถนนสายห้วยแก้ว เยื้องฝั่งตรงกันข้ามเซ็นทรัลกาดสวนแก้ว ในซอยที่มีป้ายโคลาติดอยู่ที่ปากซอย
 
ว่ากันว่างานนี้
ถ้าไม่เกิดการขัดข้องอะไรอย่างรุนแรง งานนี้จะจัดกันอย่างแน่นอนในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2553 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ยันจนถึงเที่ยงคืนนั่นแหละครับ
 
ช่วงนี้
ผมก็เลยวุ่นอยู่กับการคัดเลือกบทกวี ส่วนหนึ่งสำหรับอาสาสมัครคนหนุ่มสาวที่จะมาอ่าน อีกส่วนหนึ่งสำหรับคณะละครที่จะนำมาฝึกซ้อมและแสดง ที่หนักที่สุดก็คือ ผมต้องซ้อมกีตาร์และร้องเพลงที่ผมชอบ และหาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงแต่ละเพลงที่ผมเล่นมาเล่าให้คนฟัง ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และทำไมถึงชอบ ตามที่ฝ่ายจัดเขากำหนดมา
 
ตอนนี้ผมเพิ่งเอาชนะการปลุกปล้ำเพลงที่ชื่อว่า Green Fields ของ The Brother four และเพลงของคณะสุเทพคอรัสในอดีตที่นำเพลงนี้มาทำเป็นภาคภาษาไทยที่ชื่อว่า “คอยเธอ” ซึ่งเป็นเพลงที่ผมชอบมากๆทั้งสองเวอร์ชั่น แต่ไม่ค่อยมีโอกาสเล่นให้ใครฟัง โดยเฉพาะการเล่นดนตรีในเชิงพานิชย์ที่ต้องตามใจตลาด หรือผู้บริโภค
 
พอมาถึงงานที่มีโอกาสได้แสดงแบบเพรียวอาร์ต ก็ต้องมาเริ่มต้นฝึกซ้อมใหม่ ทั้งจากคลิปวิดีโอและหนังสือคู่มือ picking ของ i.s.song จนนิ้วบวมนั่นแหละครับ
 
คุณเคยฟังเพลงทั้งสองเพลงนี้ไหม
ที่เป็นเพลงสากลจะขึ้นท่อนแรกว่า
 
Once there were green fields kissed by the sun
Once there were valleys where rivers used to run
Once there was blue sky with white clouds high above
Once there were parts of an everlasting love
We were lovers who strolled thro’ green fields
 
ส่วนเพลงไทยที่ถอดความออกมาได้อย่างอย่างงดงามสละสลวยโดยคุณ เนรัญชรา นักแต่งเพลงผู้มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จะขึ้นท่อนแรกว่า

งามทุ่งสวรรค์งามยามต้องรวี
งามทุ่งแห่งนี้มีสายธารผ่านนานนิรันดร์
ปุยเมฆสดใสพลิ้วปลิวในม่านครามนั้น
เฉกเช่นสวรรค์สรรค์เป็นชั้นเป็นฉากเสน่หา
ฉ่ำรักบูชาด้วยศรัทธารักนิรันดร์

ผมกะว่าจะเล่นเพลงนี้ภาคภาษาไทยจนจบ แล้วเล่นเพลงสากลประกอบสักท่อนหนึ่ง แล้วเล่าที่มาที่ไปของเพลงนี้พอหอมปากหอมคอ
 
นี่คือสาเหตุหนึ่ง
ที่ทำให้ผมยังต้องอยู่ในภาวะที่ต้องหมกมุ่นกับตัวเอง โชคดีหน่อยที่งานนี้มีสุภาพสตรีมือเชลโลสมัครเล่นมาช่วยผมเล่น หาไม่เช่นนั้น ผมคงรู้สึกหนักใจมิใช่น้อยในฐานะที่ถูกยกให้เป็นไฮไลท์ของงาน ถึงแม้ว่าผมจะคุ้นเคยกับกีตาร์และไมโครโฟนบนเวทีดนตรีมาอย่างยาวนาน แต่ก็อดรู้สึกถึงความกดดันไม่ได้ ก็เลยต้องซ้อมหนัก เพื่อให้เกิดความมั่นใจให้มากที่สุด และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด
 
ครับ
ถ้าได้รับรายละเอียดของงานมาจากน้องๆ ผมจะเขียนมาบอกเล่า เผื่อท่านที่อยู่ใกล้ๆอยากจะมาเที่ยวงานนี้ที่ร้านสุดสะแนนของคุณอรุณรุ่ง สัตย์สวี หรือ คุณฮวก สะแนน ชายหนุ่มผมยาวรูปหล่อที่ผมนำมาเป็นภาพประกอบข้างบนนี่แหละครับ ภาพนี้เป็นภาพที่ผมถ่ายเองในวันที่เขามาพูดคุยรายละเอียดงานนี้กับผมที่หน้ากระท่อมทุ่งเสี้ยวเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
 
อ้อ งานนี้ ไม่ต้องซื้อบัตรครับ เตรียมค่าอาหารและเครื่องดื่มให้ตัวเอง ก็เดินเข้ามาได้เลย  
ขอบคุณครับ.
 
29 ตุลาคม 2553
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
 
 
 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางลงมาจากยอดเขาสูงลงมาสู่พื้นดินเบื้องล่างเป็นเวลานานนับปีแล้วหลังจากต่อสู้ปีนป่าย...ขึ้นไปอยู่บนยอดสุดเป็นเวลานานหลายปีแต่ทันทีที่เขาก้าวย่างลงมาเหยียบฝ่าเท้าลงไปแตะผืนแผ่นดินเบื้องล่างเขาก็พลันพบว่า...พื้นดินบนผืนแผ่นดินไทยมิใช่พื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเขาเสียแล้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 เมื่อวานนี้ ข้าจำใจต้องตัดสินใจซื้อบัตรตีตั๋ว - ขึ้นชิงช้าสวรรค์กับเด็กๆในงานสวนสนุกข้างบ้านเพราะทนคำรบเร้าของเด็กๆที่ต้องการให้ข้าขึ้นไปนั่งเป็นเพื่อนไม่ไหว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  จริงหรือที่มีท่านผู้รู้กล่าวกันว่าต้นตอสาเหตุ - ของความขัดแย้งแตกแยกกันอย่างรุนแรงในสังคมไทย ที่กำลังลุกลามกันใหญ่...และยากจะหาข้อยุติในขณะนี้หาใช่เรื่องที่เกิดขึ้น...จากคนเพียงสอง - สามคน ขัดแย้งกันแล้วชักชวนคนอื่นๆมาเป็นพรรคพวกร่วมทะเลาะกันไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 มีคนเคยบอกฉันว่า "การเดินทาง คือกำไรของชีวิต" อาจเป็นเพราะความฝันกระมัง ที่ทำให้ชีวิตฉันต้องเดินทางอย่างมากมาย สมัยฉันเป็นเด็กเล็ก ฉันเคยฝันกับตัวเองเอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง...ฉันจะเป็นดั่งซานตาคลอส นักบุญใจดี ที่ชอบแบกถุงผ้าใบใหญ่พาดไหล่ เดินทางเอาขนมไปแจกเด็กๆที่หิวโหยในวันคริสต์มาส...ฉันเชื่อว่าความฝันช่วยทำให้ชีวิตคนเราในแต่ละวัน - มีความหมาย และเฝ้าบอกแก่ตนเองเสมอว่า ความฝันต้องควบคู่กับการเล่าเรียนศึกษา เพื่อเป็นบันได...ทอดขึ้นไปสู่อนาคตอันสดใส สำหรับก้าวขึ้นไป - ไขว่คว้าความฝันให้เป็นจริง...จนกระทั่งฉันโตเป็นหนุ่มฉันจึงเริ่มฝัน เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นมา ฉันฝันว่า วันหนึ่ง…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ภายในกำแพงที่คุมขังแห่งนี้เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผม ป้องกันไม่ให้ผม ต้องถูกบังคับสับถูกโขกให้ออกไปตระเวนร้องเพลงตามข้างถนน ซึ่งไม่ว่าฝนจะตกแดดจะออกอย่างไร จะต้องทำเงินให้ได้ ตามยอดเงินที่นายพ่อตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด จะกินอิ่มหรือไม่ นายพ่อไม่เคยถาม...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เมื่อเดินทางจากลำปางมาอยู่กับท่านเศรษฐีใจบุญที่กรุงเทพ ท่านให้ผมเรียกท่านว่า "นายพ่อ" ท่านได้สอนให้ผมร้องเพลงเล่นกับวงดนตรีคนพิการของท่าน รวมทั้งสอนให้ขายล็อตเตอรี่ด้วย เพื่อให้ออกไปหาเงิน ผมก็ไป ไม่เคยอิดออดอะไร เพื่อหวังจะได้เรียนหนังสือและมีชีวิตที่ดีขึ้น...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
วันที่ฉันได้รับจดหมายจากแดน 3 ฉันกำลังมีความสุขกับงานขึ้นบ้านใหม่ บ้านที่ฉันกู้เงินสหกรณ์ตำรวจ และขายวัวทั้งฝูงที่เลี้ยงเอาไว้ นำเงินมาสร้างให้แม่แก้ว แม่ผู้ให้กำเนิดชีวิตฉัน โดยยอมทิ้งความอยากได้รถยนต์เก๋ง วีออสสีดำ ป้ายแดง ที่ฝันจะขับตะรอนทัวร์ ออกไปช่วยเหลือผู้คนตามต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกล แต่เอาเข้าจริงๆความฝันกับความเป็นจริง มักเดินสวนทางกันเสมอ...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เธอสวยถึงแม้เธอจะแต่งตัวขะมุกขะมอมด้วยเสื้อผ้าราคาถูกและเก่าคร่ำคร่าแต่เปลือกกายภายนอกอันหม่นหมองของความยากไร้หาได้บดบังความงามของเธอไม่
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1. ยามเช้าเปิดหน้าต่างตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างและข่าวคราวจากโลกภายนอก
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  สวยหรือไม่สวยเพราะหรือไม่เพราะหอมหรือไม่หอมอร่อยหรือไม่อร่อยสบายหรือไม่สบายดีหรือไม่ดี...ข้าใช้ความรู้สึกนึกคิดจากเลือดเนื้อชีวิต กว้างศอก ยาววา ของข้าตามกรอบความรู้สึกนึกคิดแบบทวิลักษณ์นี้แยกแยะสิ่งดีสิ่งเลว ความผิดความถูกต้อง ความดีและความชั่ว ออกจากกันตั้งเล็กจนโตและตราบเท่าจนถึงทุกวันนี้เพื่อเลือกรับและปฏิเสธสิ่งต่างๆในโลกครอบคลุมไปหมดทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยไปจนถึงเรื่องคอขาดบาดตายและทำให้ชีวิตข้าอยู่รอดปลอดภัยในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความโหดร้ายของชีวิต
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเกลียดและฉันรักเธอมาทักถามทำไมในเหตุผลเหตุใดรัก เหตุใดเกลียด เกิดในตนสิ่งใดดลดาลใจให้เกิดมา
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
รื่นเริงเถิดจงรื่นเริงเถิดชีวิตนี้เกิดมาสั้นนักหนารื่นเริงเถิดมิตรอย่ามัวรอช้าก่อนเวลารื่นเริงจะหมดสิ้นไป