Skip to main content

ปีการศึกษา   2528
ทางกระทรวงศึกษาธิการ   มีนโยบายจะส่งเสริมพระพุทธศาสนาแก่นักเรียน   จึงได้จัดสร้างพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์   และจัดสรรให้แก่โรงเรียนทั่วประเทศ   ในรุ่นแรกจะมอบให้แก่โรงเรียนนำร่องก่อน   ปีต่อไปจึงจะทยอยมอบให้   จนครบทุกโรงเรียน   โดยมีจุดมุ่งหมายให้โรงเรียนนำพระพุทธรูป   ไปประดิษฐานข้างๆเสาธง   เพื่อให้นักเรียนทำกิจกรรมหน้าเสาธงในตอนเช้า   ครบทั้ง  3  สถาบัน  คือชาติ  ศาสนา   พระมหากษัตริย์   โรงเรียนได้สร้างฐานสำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอย่างดี   มีหลังคาคลุมกันฝน   กันแดดสวยงาม   ดูน่าศรัทธากราบไหว้จริงๆ

ผมรับผิดชอบ
งานพระพุทธศาสนา   จึงต้องเดินทางไปรับพระพุทธรูปที่จังหวัดจำนวน  3   องค์   ได้ติดต่อรถรับจ้างที่ขึ้นเวียงแหง   เจ้าของรถบอกว่า   รถจะมารับเวลาบ่ายโมง   ตอนเช้าเขาต้องไปซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค   ที่พ่อค้าแม่ค้าเวียงแหงสั่งก่อน   เป็นรถกระบะที่รับจ้างซื้อสินค้า   ไปส่งให้ร้านขายของชำหลายร้าน  ในอำเภอเวียงแหง   เวลาบ่ายโมงมาถึง   รถกระบะบรรทุกสินค้า   และองค์พระพุทธรูปจำนวน  3  องค์   ผู้โดยสารมีผมเพียงคนเดียว   ก็แล่นออกจากเชียงใหม่   มุ่งสู่อำเภอเวียงแหง   แสงแดดส่องสว่างไสวไปทั่วป่าเขา   รถวิ่งไปสักครึ่งชั่วโมง   ฟ้ากลับมืด   ฝนตกประปรายแล้วหยุด   รถวิ่งใกล้จะถึงน้ำแม่แตะ   ฟ้ามืดมัว   ฝนตกลงมาเล็กน้อย   และตกหนักมากขึ้น   ถนนเริ่มเละ   คนขับเร่งเครื่องให้เร็วขึ้น   รถหยุดๆวิ่งๆตามสภาพถนน   พอถึงตลิ่งแม่น้ำแตะ   เห็นน้ำไหลเร็วขึ้น   ปริมาณมากกว่าเดิม   คนขับหยุดรถเหมือนชั่งใจ   แล้วเร่งเครื่องส่งเต็มที่   รถบรรทุกของเกือบเต็มรถ   พระพุทธรูปด้วย   พุ่งลงสู่แม่น้ำแตะดังโครม   วิ่งพรวดๆไปติดเกาะกลางน้ำ   เร่งเท่าไรก็ไม่ไป   บริเวณรอบๆเริ่มมืด   คนขับพยายามเร่งเครื่องอีกหลายครั้ง   รถขยับไปมา   เศษโคลนปลิวว่อนไปข้างหน้าหลัง  ล้อจมลึกลงในโคลนมากกว่าเดิม   คนขับลงมานั่งยองๆดูล้อรถ   นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วยืนขึ้นพูดกับผมว่า   รถไปไม่ได้แล้ว   ต้องพักค้างคืนที่นี่ก่อน   รอน้ำลด   ตอนเช้าจึงออกเดินทาง   ผมใจแป้วลงทันที

เข็มนาฬิกาข้อมือผม
บอกเวลา  17.00  น.เศษ   แต่ดูมืดกว่าปรกติ   เวลาผ่านไปๆ   ผมรู้สึกหิว   เนื้อตัวก็เหนียวหนึบหนับ   คนขับนอนเงียบด้านหน้ารถ   คงกินข้าวมาแล้ว   ท้องผมเริ่มปั่นป่วนร่ำร้องขออาหาร   ความหิวเพิ่มมากขึ้น   ค้นในกระเป๋าเสื้อผ้า   จำได้ว่าไม่มีของกิน   มือควานเสี่ยงไปทั่ว   เจอแล้วรีบดึงออกมา   มันเป็นกล้วยน้ำว้า  2  ลูก  เปลือกเหลืองงาม   รีบกินอย่างรวดเร็ว   อร่อยกว่าทุกครั้ง   ยังไม่อิ่ม   ตากวาดไปเจอลังบรรจุน้ำขวด   มีหลากหลายชนิดในหนึ่งลัง   มีขวดไวตามิว  2  ขวด   ตาเสือหิวโหยของผมกวาดดูคนขับ   คงหลับไปแล้ว   ถ้าตื่นจะขอซื้อสัก  2  ขวด   พรุ่งนี้ค่อยบอกก็ได้   ผมเปิดปากขวด   ดื่มไวตามิวอย่างเอร็ดอร่อย   รอดตายแล้ว   ระบบต่างๆในร่างกายเริ่มดีขึ้น   สมองเริ่มแจ่มใส   หายใจปลอดโปร่ง

อิ่มแล้ว
ก็นอนบนกระสอบข้าวสารท้ายรถ  มันพอดีกับแผ่นหลังผม   เสียตรงที่ผิวกระสอบข้าวมันโค้ง  ทำให้หลังผมแอ่นไปด้วย   แต่ก็ทำใจยอบรับได้   มองไปที่ลำน้ำแตะ   ต้นไม้สีดำตะคุ่ม   ยืนลำต้นตัดกับฟ้าขาวจาง   มองไปคล้ายชายแก่นั่งหันข้าง ชันเข่า   ศีรษะก้มลง   ส่วนต้นไม้ใหญ่เหมือนยักษ์ผิวดำทะมึน   ยืนตระหง่านจ้องมองมา   บางต้นนั้น   ส่วนบนที่เป็นพุ่มใบเหมือนผู้หญิงกำลังสยายผม   แขนสองข้างทอดลง   นิ้วมือแตกแขนง   แผ่ออกเป็นหลายนิ้วดังรากต้นไม้   ดูหน้าหวาดหวั่น   มันเป็นจิตนาการยามจิตใจเราอ่อนไหวเท่านั้นเอง   ผมบอกตนเอง   ลมโชยมา   ตาผมเริ่มหรี่   ทันใดนั้น...ผมเห็นแสงกะพริบเป็นจังหวะๆ   สว่างแล้วก็ดับๆที่พุ่มไม้   จากหนึ่งจุดเป็นสองจุด   ตาผมขยายกว้างขึ้น  แสงกะพริบเพิ่มจำนวนมากขึ้น   มันกระจายแสงเต็มบริเวณนั้น   เป็นแสงหิ่งห้อยนั่นเอง   สวยงามมาก   มันเคลื่อนที่และกระจายจนเต็มพื้นที่เหนือน้ำ   ผมลุกนั่งมองอย่างตื่นตาตื่นใจครู่หนึ่ง   แล้วลงนอนมองต่อ   ยุงเริ่มมาก่อกวนเป็นระยะ   ในความมืดดำของป่าเปลี่ยว  ยังมีแสงสว่างเรืองสวยงามให้เห็น   ในความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ทรมาน   ยังมีความผ่อนคลาย   ปลอดโปร่งหลงอยู่เหลือ   ผมบอกกับตัวเอง

                                ยุงกัดกายจนลายพร้อย
                             ฝูงหิ่งห้อยก็พราวพร่าง
                             เหน็ดเหนื่อยนักพักกลางทาง
                             เมื่อฟ้าสางค่อยย่างเดิน.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
                                                            
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง