Skip to main content

กับประเด็นศาลรัฐธรรมนูญฟ้องแกนนำเสื้อแดง การถอนประกันตัวจตุพร การช่วยเหลือเพื่อนนักโทษการเมือง การใส่เสื้อแดงของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

คลิป รายการ ประกายTalk โดย DJ.Bus @KonthaiUK( 25 -07-2012) แขกรับเชิญ ก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประเด็น - กับประเด็นศาลรัฐธรรมนูญฟ้องแกนนำเสื้อแดง การถอนประกันตัวจตุพร การช่วยเหลือเพื่อนนักโทษการเมือง การใส่เสื้อแดงของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญกล่าวโทษต่อตำรวจ ว่ามีกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มผลักดันทางการเมืองข่มขู่คุกคามตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่อง มีการปราศรัยและใช้วิธีต่างๆ เพื่อบีบบังคับข่มขืนใจให้วินิจฉัยคดีให้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตน ซึ่งประกอบด้วย "จ่าประสิทธิ์" "เจ๋ง ดอกจิก" "ก่อแก้ว" พร้อมด้วยมวลชนทั่วไปอีกหลายสิบคน

นายก่อแก้ว พิกุลทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 1 ในผู้ที่ถูก ศาลรัฐธรรมนูญกล่าวโทษ ได้เปิดเผยผ่านทางรายการประกายTalk โดย DJ.Bus @KonthaiUK เมื่อวันพุธที่ 1 สิงหาคม ว่ารู้สึกแปลกใจที่มีการแจ้งความตัวแกนนำและมวลชนจำนวนมาก เพราะถ้าแจ้งเฉพาะแกนนำก็พอที่จะเข้าใจได้เนื่องจากศาลเองก็ปกป้ององค์กรของศาล ก่อแก้ว มองว่า “การแจ้งความรวมถึงมวลชนด้วยมันทำให้อดคิดไม่ได้ว่าศาลเองกำลังที่จะพยายามปิดปากกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์ศาลหรือปล่าว”

การถอนประกันจตุพร แจ้งความพวกตนและมวลชน แกนนำ นปช. มองว่า เป็นสถานการณ์ที่สอดคล้องกัน ทำให้มองว่าศาลต้องการลดการวิพากษ์วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญลง โดยการทำให้คนกลัว

“ตราบใดที่ศาลดำเนินการวินิจฉัยคดีต่างๆ แล้วไม่สามารถอธิบายให้คนให้เข้าใจในเหตุผล หรือในหลักกฎหมายที่ศาลอ้างอิงได้นี่ คนก็จะวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่องตลอดไป ดังนั้นการที่คนไม่ไว้วางใจศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากว่าเคยมีหลายๆเหตุการณ์โดยเฉพาะในปี 2551 ที่ศาลรัฐธรรมนูญมาดำเนินการกับคุณสมัคร สุนทรเวช ดำเนินการต่อพรรคพลังประชาชนและทำให้คุณสมชาย(วงสวัสดิ์)ต้องหลุดออกจากตำแหน่งไป ทำให้คนคลางแคลงใจไม่เชื่อมั่นต่อศาลรัฐธรรมนูญจนถึงขณะนี้” นายก่อแก้ว กล่าว ส่วนของแกนนำ นายก่อแก้ว เห็นว่าถ้าได้ทำผิดกฎหมายก็ยินดีที่จะรับโทษ แต่สำหรับมวลชนที่มาแสดงออกในทางต่อต้านศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากไม่ไว้วางใจศาลรัฐธรรมนูญ อันนี้มองว่าเขาใช้สิทธิในฐานะพลเมืองไทยในการปกป้องหลักการของประเทศนี้ หลักกฎหมายหลักความยุติธรรมของประเทศนี้ ดังนั้นเขาควรได้รับการคุ้มครองไม่ควรไปดำเนินการกับเขา

นายก่อแก้ว เห็นว่ากลไกในการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถูกล็อคไว้หมดโดยรัฐธรรมนูญ สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาโดยให้องค์กรเหล่านี้ยึดโยงกับประชาชนนั้น นายก่อแก้ว กล่าวว่า องค์กรใดที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน บางที่เขาก็ไม่เห็นหัวประชาชน ใช้อำนาจโดยไม่เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนและไม่สนใจความต้องการของประชาชน” ถ้าออกแบบองค์กรเหล่านั้นให้ยึดโยงกับประชาชนได้ก็จะดี แต่ในทางกลับกันเราก็ต้องออกแบบกระบวนการสรรหาองค์กรเหล่านั้น โดยไม่ทำให้ถูกมองว่าพรรคการเมืองหรือรัฐบาลในขณะนั้นจะกำหนดโดยฝ่ายเดียว อาจจะทำให้เกิดปัญหาความมั่นใจของสังคมได้

สำหรับการใส่เสื้อแดงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายก่อแก้ว มองว่าอภิสิทธิ์ ใส่เสื้อแดงโดยไม่เข้าใจว่าเสื้อแดงมีเป้าหายเรียกร้องอะไร เสื้อแดงที่เคลื่อนไหวเพื่อต้องการความถูกต้อง ต้องการความยุติธรรมและประชาธิปไตย เสื้อแดงไม่ได้เป็นศตรูกับคุณอภิสิทธิ์ หรือพรรคประชาธิปัตย์หรือใครเป็นการส่วนตัว แต่เป็นศตรูกับความไม่ถูกต้อง

นายก่อแก้ว มองว่า ถ้าจะปรองดองนักโทษการเมืองทั้งเหลืองแดงต้องได้รับการประกันตัว เพียงแต่ว่าที่ผ่านมานักโทษเสื้อเหลืองได้รับการประกันตัว แต่เรื่องการคัดค้าน พรบ.ปรองดองของนายอภิสิทธิ์นั้น นายก่อแก้ว ให้ความเห็นว่า วันนี้คุณอภิสิทธิคัดค้านการปรองกอง พรบ.ปรองดองอย่างเต็มที่ ทั้งๆที่เคยพูดไว้เมื่อปี 53 หลังเกิดเหตุการณ์ พ.ค.53 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2-3 ชุด เพื่อเป้าหมายเรื่องการปรองดอง แต่เวลาผ่านมา 1 ปีไม่มีความคืบหน้า นักโทษการเมืองก็ถูกขังในคุกเต็มไปหมด ซึ่งคำพูดและการกระทำของคุณอภิสิทธิ์มันตรงข้ามกัน วันนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ผลักดันเรื่องการปรองดองและเห็นด้วยกับ พรบ.ปรองดองที่กรรมาธิการศึกษาแนวทางปรองดองที่มี พลเอก สนธิ เป็นประธาน ที่ผ่านมาฝ่ายค้านคัดค้านแต่ก็ไม่มีแนวทางหรือทางออก

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :

ศาลรัฐธรรมนูญฟ้องจ่า-เจ๋ง-ก่อแก้ว ฐานข่มขู่คุกคาม

บล็อกของ ประกายไฟ

ประกายไฟ
แถลงการณ์ กลุ่มประกายไฟ 
ประกายไฟ
...ข้อเสนอเกี่ยวกับการจัดการสังคมหลังทุนนิยมข้างต้นนี้ถือเป็นเป้าหมายหลัก และเป็นผลผลิตโดยตรงของการเติบโตของขบวนการโลกาภิวัตน์จากรากฐาน ที่พยายามเสนอทางเลือกใหม่ในการพัฒนาท่ามกลางซากปรักหักพังของโลกสังคมนิยม ในทศวรรษ 1990 ที่นักคิดฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายเสรีนิยมต่างประกาศว่า “เราไม่มีทางเลือกอื่นใดเหลือแล้วนอกจากระบบทุนนิยมกลไกตลาดและระบอบ ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม” แม้ว่าเป้าหมายดังกล่าวจะยังไม่บรรลุ แต่คุณูปการที่สำคัญที่สุดที่ขบวนการโลกาภิวัตน์จากรากฐานได้สร้างไว้ก็คือ ความหวังที่ว่า “โลกใบใหม่เป็นไปได้” ซึ่งเป็นคำขวัญของขบวนการสมัชชาสังคมโลกนับตั้งแต่ ค.ศ.2001 เป็นต้นมา
ประกายไฟ
“..รู้สึกว่าธรายอาร์มไม่ใช่แค่กางเกงใน แต่มันแสดงถึงสัญญะบางอย่างของการต่อสู้ ซึ่งเห็นไหมคะ แค่สงสัยว่าทำไมต้องเป็นกางเกงในของธรายอาร์ม คนที่สงสัยเขาก็ต้องหาเรื่องราวของมันบ้างล่ะค่ะ อย่างน้อยเราก็ได้สื่อเรื่องความไม่เป็นธรรมนอกจากแคมเปญหลักของงานนี้..” - ลูกปัด 1 สวาผู้ร่วมรณรงค์ 
ประกายไฟ
 “...พวกนายทุนจึงต้องหาทางให้ปัญหาเหล่านี้ทุเลาเบาบางลง ไม่อย่างนั้นการผลิตในระบบทุนนิยมอาจต้องล่มสลาย จึงต้องสร้างกติกากลางขึ้นมาเพื่อให้การขูดรีดยังดำรงตนต่อไปได้...”
ประกายไฟ
...ผมไม่คิดว่าการมีวันพ่อวันแม่มันจะสร้างประโยชน์อะไรให้กับคนที่ "มีพ่อมีแม่" (หรือแม้แต่ตัวคนเป็นพ่อเป็นแม่) แต่ขณะเดียวกันมันกลับเป็นวันที่ "ซ้ำเติม" คนที่ "ขาดพ่อขาดแม่" ซึ่งโดยปกติก็อาจจะมีชีวิตที่รันทดเจ็บปวดกับเรื่องนี้อยู่แล้ว..
ประกายไฟ
...แต่เชื่อไหม (เหมือนถาพในหนัง) ใบหน้าคนเหล่านั้นลอยออกมาปะทะสายตาเรา เรามองไม่เห็นความกลัวในใบหน้าของคนเหล่านั้น บางคนด่าไปอมยิ่มไป บางคนด่าไปก็แสดงอาการท้าทายไป มันต่างกันมาก ต่างกันจริงๆ เราเคยเห็นคนในม็อบเสื้อแดงช่วงที่มีการสลาย ทั้งวันที่ 10 เมษา และ 19 พฤษภา เราเห็นแววตาคนที่กลัวตาย เห็นแววตาคนที่มีห่วงเห็นแววตาคนที่พร้อมจะยอมตาย แต่คนเหล่านั้นไม่กร่างเท่านี้นะ
ประกายไฟ
...ที่มาที่ไปของ "เสื้อแดง" มันไม่เกี่ยวกับเรื่อง "รักเจ้า" หรือ "รักทักษิณ" ..