Skip to main content


Kasian Tejapira(13/10/2012)

 


มีนักคิดปัญญาชนบางท่านที่ต่อต้านรัฐประหารของ คปค. เสนอว่า โลกาภิวัตน์ ไปกันได้กับ ประชาธิปไตย และ ความเป็นธรรมทางสังคม และเสนอให้ชูธงชาติไทย ๓ ผืนนี้ควบคู่กันไป ( ดู บทความ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ : ธงชาติไทยสามผืนในกระแสโลกาภิวัฒน์ )

แต่นี่เป็นความจริงหรือความฝันกันแน่?

Credit Suisse Research Institute ได้เผยแพร่รายงานประจำปีล่าสุดเรื่อง Global Wealth Report 2012 เผยให้เห็นความเหลื่อมล้ำสุดโต่งในโลกปัจจุบันภายใต้เศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิวัตน์ราว ๓ ทศวรรษกว่าที่ผ่านมาว่า:

หากดูจากยอดบัญชีโภคทรัพย์ (wealth) หรือนัยหนึ่งทรัพย์สิน เงินลงทุนและหนี้สินของครัวเรือนทั่วโลก ก็จะพบการกระจายตัวของโภคทรัพย์ในหมู่ประชากรผู้ใหญ่ (adults) ในโลกเหลื่อมล้ำเป็นรูปพีระมิดดังนี้

-สีดำตรงยอดสุดแทนคน ๒๙ ล้านคน คิดเป็น ๐.๖% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่ากว่า ๑ ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯขึ้นไป รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๘๗.๕ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง ๓๙.๓% ของโภคทรัพย์ในโลก

-สีเทารองลงมาแทนคน ๓๔๔ ล้านคน คิดเป็น ๗.๕% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่าระหว่าง ๑ แสน --> ๑ ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๙๕.๙ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็น ๔๓.๑% ของโภคทรัพย์ในโลก

-สีฟ้าอันดับที่สามแทนคน ๑,๐๓๕ ล้านคน คิดเป็น ๒๒.๕% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่าระหว่าง ๑ หมื่น --> ๑ แสนดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๓๒.๑ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็น ๑๔.๔% ของโภคทรัพย์ในโลก

-สีเขียวฐานล่างสุดแทนคน ๓,๑๘๔ ล้านคน คิดเป็น ๖๙.๓% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่าต่ำกว่า ๑ หมื่นดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๗.๓ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็นแค่ ๓.๓% ของโภคทรัพย์ในโลก

ในระบอบเสรีประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง เงินเป็นปัจจัยสำคัญมากในการก่อตั้งพรรคและรณรงค์หาเสียง ด้วยความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์เช่นนี้ อำนาจเสียงข้างมาก (เกือบ ๗๐% ของประชากรฐานล่าง) ย่อมถูกกีดขวางทัดทานจากอำนาจทุนมหาศาล (เกือบ ๔๐% ของโภคทรัพย์ในโลก) ของคนไม่ถึง ๑% ของประชากรในโลกบนสุด

กระบวนการเศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิวัตน์ดังที่เป็นอยู่ จึงก่อผลสำคัญด้านความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ที่เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ไม่ใช่อุดหนุนเกื้อกูล, พลังประชาธิปไตยบนฐานอำนาจเสียงข้างมากของคนที่ขาดด้อยโภคทรัพย์ต้องหาทางคะคานถ่วงดุลอำนาจทุนมหาศาลของคนมั่งมีโภคทรัพย์เสียงข้างน้อยไว้ มิฉะนั้นประชาธิปไตยก็จะหมดความหมายในทางเป็นจริงไปในที่สุด

ระบบทุนนิยมประชาธิปไตย (Democratic Capitalism) ที่แพร่หลายในโลกตะวันตกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เอาเข้าจริงจึงตั้งอยู่บนเงื่อนไขแห่งความตึงเครียดขัดแย้ง ไม่ใช่อุดหนุนคล้องจองกัน และเต็มไปด้วยวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า จนดุลอำนาจเปลี่ยนภายใต้แนวนโยบายเสรีนิยมใหม่/โลกาภิวัตน์ กลายเป็นทุนนิยมอยู่เหนือประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยที่นับวันไม่เต็มใบหรือครึ่งใบซึ่งเบ้ไปทางทุน ดังที่เห็นอยู่ในหลายประเทศที่ประสบวิกฤตเศรษฐกิจทุกวันนี้ (ดูบทความของ Wolfgang Streeck เรื่องนี้ได้ที่ http://newleftreview.org/II/71/wolfgang-streeck-the-crises-of-democratic-capitalism)

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความเป็นธรรมในสังคม ภายใต้ความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ในโลกแบบนี้ มันจะมีได้อย่างไร? เป็นฝันกลางวันแสก ๆ โดยแท้!

 

 

จากบทความเดิมชื่อ: ความเหลื่อมล้ำสุดโต่งในโลก: โลกาภิวัตน์น่ะรึจะนำไปสู่ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางสังคม? 

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
บทกวีไว้อาลัยการจากไปของ 'ไม้หนึ่ง ก.กุนที' ที่ถูกยิงเสียชีวิตวันนี้ "เมื่อกวีจากไปไร้กวี.."
เกษียร เตชะพีระ
ที่คุณสุเทพ ณ กปปส.คัดค้านการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป ยืนกรานว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ก็มีนัยการเมืองสำคัญตรงนี้ คือต้องทำแท้ง “อำนาจอธิปไตย” ของปวงชนชาวไทยให้จงได้ ไม่ให้มันได้คลอดได้ผุดได้เกิดผ่านกระบวนการเลือกตั้งมาลืมตาดูโลก ทำแท้ง “อำนาจอธิปไตย” ของปวงชนชาวไทยได้สำเร็จแล้ว ก็จะได้เคลมตนเองเป็น “รัฏฐาธิปัตย์” แทนนั่นปะไร
เกษียร เตชะพีระ
พลังฮึกห้าวเหิมหาญของม็อบและขบวนการใดที่ก่อตัวขึ้นโดยกัดกร่อนบ่อนทำลายเหล่าสถาบันการเมืองของชาติให้เสื่อมทรุดถดถอยราบคาบลงไป ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ย่อมไม่สร้างสรรค์อะไรขึ้นมา มีแต่พลังทำลาย ผลได้ของการเคลื่อนไหว ไม่ยั่งยืน เมื่อฝุ่นหายตลบแล้วก็จะพบว่ามีแต่ซากปรักหักพังแห่งสถาบันการเมืองของชาติทั้งชาติ โดยไม่ได้ดอกผลการต่อสู้อะไรจริงจังยั่งยืนขึ้นมาเลย
เกษียร เตชะพีระ
ข้อสังเกตหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเพื่อสร้างและปรับปรุงระบบลอจิสติกส์ของประเทศใหม่ ผิดรัฐธรรมนูญ
เกษียร เตชะพีระ
ผมอ่านข้อเสนอที่นายกแพทยสภาและบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแถลงล่าสุดแล้ว มีความเห็นว่ามัน "ไม่เป็นกลาง" ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้...
เกษียร เตชะพีระ
วิธีการที่ผิด ไม่สามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ถูกต้องดีงามได้ และคนอื่นเป็นเจ้าของประเทศไทยเหมือนกันเท่ากับผมและคุณ เท่ากันเป๊ะ