Skip to main content

1


วันก่อนไปท่ากาน
(ท่ากานเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ในอำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ ) พบเด็ก หญิงสองคน เอาก้านกล้วยมาแกว่งไปมากระโดดเล่นกัน ดูน่ารักดี เป็นการเล่นแบบหาของใกล้ตัวมาเล่นกัน


พอเห็นเรามองพวกเธอก็หยุดเล่น

ถามว่าเล่นอะไร เธอบอกว่า เล่นกระโดดข้ามก้านกล้วยค่ะ ผลัดกันกระโดด

เด็กหญิงคนหนึ่งตอบอย่างอาย ๆ

ป้าของเธอยืนอยู่ใกล้ ๆ บอกหลานว่า เล่นซิ พี่เขาจะถ่ายรูป

ใช่ ขอถ่ายรูปหน่อย”

เธอเล่นต่ออย่างอาย ๆ

ป้าตากใบตองไว้เยอะแยะเลย ทำขนมหรือค่ะ”

ทำขนม พรุ่งนี้วันศิลใหญ่” (วันศิลใหญ่ก็คือวันพระที่สำคัญ)

 

 

 

2

 

ฉันเล่าเรื่องเด็ก ๆ เล่นก้านกล้วยที่บ้านท่ากานให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่า

วันก่อนไปคุยกับเพื่อนที่กาดกลางเวียง เห็นเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง 4-5 คน อายุประมาณ 4-5 ขวบ กำลังเล่นตบตีกันอยู่อย่างเมามัน ทำเหมือนในละครเลยครับ มีจิกหัว มีเอาตีนลูบหน้า แล้วก็พูดจาจีบปากจีบคอ ด่ากันประมาณแย่งผัวกัน เสียดายไม่มีกล้องติดตัวถ่ายเป็นวิดีโอไว้ นี่แหละครับ ผลงานของสื่อที่มอมเมา”


เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง มักแสดงออกด้วยการพูดแบบละครโทรทัศน์ โดยเฉพาะ คำพูดที่จีบปากจีบคอ ประชดประชันแดกดัน

ละครโทรทัศน์ที่ว่าไม่ใช่แค่หลังข่าวเท่านั้น ช่วงประมาณทุ่มหนึ่งก็มีคือก่อนข่าวนั่นแหละ

 

 

3

 

 

แม่ของหลานมาเล่าให้ฟังว่า

เธอไปประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนหลาน ครูประจำชั้นของเด็กชั้น ป.1 เอาเรื่องนี้มาพูดในที่ประชุมให้ผู้ปกครองฟังว่า ให้ผู้ปกครองดูแลเรื่องการดูโทรทัศน์ของลูกด้วย เพราะพวกเด็ก ๆ พูดจากันเหมือนในละครโทรทัศน์ นับว่าเป็นโรงเรียนที่น่าชื่นชมมากโดยเฉพาะครูประจำชั้นของเด็กชั้น ป.1


วันต่อมาลองถามหลานสาวดูว่า มีเด็กที่โรงเรียนพูดจาแบบนางเอกนางร้ายกันไหม เธอบอกว่ามี

บอกหลานว่า พูดให้ป้าฟังหน่อยซิ แบบไหน

หลานสาวว่าอย่างนี้ป้า

ไม่ ไม่น่ะ...ม่าย...” “ว้าย สลิด”

บอกหลานสาวว่า พอแล้ว (นี่ขนาดไม่ค่อยได้ดู เพราะหลังข่าวพ่อเธอไม่ให้ดู ถ้าได้ดูก็เป็นละครก่อนข่าว ซึ่งก็ไม่ต่างกัน)

 


ส่วนเด็กผู้ชายนั้นออกไปทางบู๊ เช่นว่า คนหนึ่งโดนเพื่อนเตะผ่าหมากจนเดินแทบไม่ได้

ดูเป็นเรื่องเล่น ๆ ของเด็ก ๆ แต่ไม่ใช่เรื่องเล็ก บางคนอาจะเถียงว่า ถ้าดูให้จบก็จะรู้ว่า คนที่พูดจาไม่ดีพวกนั้นก็ได้รับผลไม่ดี ส่วนคนที่พูดจาดี เป็นคนดีก็ได้รับสิ่งดี ๆ นั้นก็จริง แต่กว่าจะถึงตอนจบนั้นเล่า

 

ถ้าแก้ปัญหาแบบครูประจำชั้น ป.1 ก็คือ ดูแลลูกกันเอง อย่าให้ลูกดูแต่การไม่ให้ลูกดูพ่อแม่ก็ต้องเสียสละไม่ดู

 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
บทความที่พยายามนำพาผู้อ่านฝ่าม่านมายาคติว่าด้วยการจัดการทรัพยากรป่าไม้ด้วยการป้องกันไฟป่าสู่รูปแบบการจัดการแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพด้วยการ"ชิงเผา"  
แพร จารุ
บน ฟ้า มี เมฆ ลอย บน ดอย มี เมฆ บัง มี สาว งาม ชื่อ ดัง อยู่ หลัง แดน ดง ป่า     เนื้อเพลงมิดะค่ะ สองบรรทัด....เพราะเหลือเกิน และเข้าไปอยู่ในหัวใจใครต่อใครได้ไม่ยาก บนฟ้ามีเมฆลอยบนดอยมีเมฆบัง ฟังเพียงแค่นี้ก็จินตนาการได้กว้างไกล หัวใจก็ลอยไปถึงไหน ๆ แล้ว  
แพร จารุ
 ฉันเชื่อว่า หากคนเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทุกอย่างก็จะดีได้ไปกว่าครึ่ง บางคนบอกว่า ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เช่น เรื่องทัศนคติที่มีต่อคนอื่น และตัดสินอย่างช้า ๆ   สามีของฉันบอกว่า จงรวดเร็วในการฟัง แต่จงเชื่องช้าในการตอบ คือให้ความสำคัญในการฟังมากๆ ก่อนจะตอบจึงจะดี จริงของเขาเพราะเดี๋ยวนี้มีแต่คนพูดและพูด แต่ไม่ค่อยฟังคนอื่น ฉันเอาเรื่องนี้มาเขียนเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากไปสังเกตการณ์เขาพูดคุยทบทวนประสบการณ์การทำงานกันของโครงการ (CHAMPION/MSM) และสมาคมฟ้าสีรุ้ง    
แพร จารุ
  1   เหมือนเมืองบาป ฉันบอกเพื่อน ๆ จากเมืองกรุงว่า มาเชียงใหม่ อย่าลืมไปกินข้าวที่สุดสะแนนนะ อาหารหลายอย่างอร่อย และพบใครๆ ที่สุดสะแนนได้ไม่ยาก นักเขียน นักข่าว นักดนตรี นักร้อง ศิลปินวาดภาพ งานปั้น และคนที่ยังไม่มีงานทำและไม่อยากทำงานอะไรเลย
แพร จารุ
เก็บดอกไม้สีขาวแล้วไปฟังดนตรีกันค่ะ ใครมาเชียงใหม่ช่วงนี้ มีดอกไม้สีขาวบานรับ เช่น ดอกปีบ มองขึ้นไปออกดอกพราวเต็มต้น สวยงาม หอม ชวนเด็ก ๆ ไปเก็บดอกปีบที่ร่วงอยู่ตามพื้นมาร้อยมาลัยเล่น ปีบเป็นต้นไม้ที่ทนความแห้งแล้งได้ดียิ่ง เรียกว่าแทบไม่ต้องดูแลกันเลยทีเดียว ต้นไม้แกร่งแต่ให้ดอกขาวสวยบอบบางและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เดินไปที่ไหนทั่วเชียงใหม่ก็พบดอกปีบได้ไม่ยากค่ะ คราวนี้ ก็มาถึงฟังดนตรีค่ะ ดนตรีในเมืองเชียงใหม่ก็มีฟังทุกแห่งเหมือนกันค่ะ เรียกว่าหาฟังกันไม่ยาก เพราะนักดนตรีในเมืองเชียงใหม่มีเยอะ ไม่ต้องจ่ายเงินก็ฟังได้ เรียกว่ามีดนตรีฟรีอยู่ทั่วไป…
แพร จารุ
    อย่าเชื่อว่าผู้คนต้องการความร่ำรวยมากกว่าอย่ในบ้านของตัวเองอย่างเป็นสุข แต่ขออภัยก่อนฉันมัวแต่ปลูกต้นไม้ หน้าบ้านของฉันเป็นผืนดินที่มีต้นไม้หนาแน่น เมื่อที่ดินถูกเปลี่ยนมือเป็นของธนาคารกสิกรไทย มันถูกไถจนหมดสิ้นภายในวันเดียว ฉันจึงเริ่มปลูกต้นไม้ใหม่เป็นรั้วแทนกำแพงบ้านอีกชั้นหนึ่ง เพื่อหวังว่ามันจะช่วยให้คลายร้อนได้บ้าง
แพร จารุ
    เปิดเมล์พบข้อความนี้ถูกส่งเข้ามา *** หนูเป็นคนกรุงเทพฯ เคยมีแฟนเป็นหนุ่มกลายสมัยที่เรียนด้วยกัน เขาเคยชวนไปเที่ยวบ้านกลาย หนูอ่านเรื่องบ้านกลายที่พี่เขียนในประชาไท รู้สึกเดือดร้อนแม้ว่าหนูจะไม่ไปที่นั่นแล้ว เพราะหนุ่มกลาย คนที่หนูรักไม่น่ารัก ไม่ดี แต่ทะเลกลายดีสวยงาม อาหารทะเลมีมาก คนอื่น ๆ ที่กลายที่หนูรู้จักก็ดีค่ะ เขาดีกับหนูมาก คนใจดี หนูจึงอยาจะร่วมปกป้องด้วย หนูอ่านพบเรื่อง SSB และลองเขียนสรุปมาให้พี่ โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือในชื่อเต็มว่า การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรืออุตสาหกรรมในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Southern Seaboard : SSB)…
แพร จารุ
  งานชั้นนี้ “แพรจารุ” ไม่ได้เขียนเองค่ะ เป็นของคุณวิชัย จันทวาโร ถือโอกาสเอามาลงที่นี่ เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงเผยแพร่ให้ผู้อ่านรู้จักทะเลกลาย ทะเลไทย ที่กำลังถูกมือร้ายอย่างเซฟรอนบริษัทขุดเจาะน้ำมันข้ามชาติทำลาย ภายใต้นโยบายของรัฐไทย ***************
แพร จารุ
  บ้านกลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 30 สิงหาคม 2553              คุณหญิงที่รัก  
แพร จารุ
โลกนี้คนชั่วมากเหลือเกิน และบรรดาคนชั่ว ๆ ก็ล้วนเป็นผู้มีอำนาจ พวกเขามีอำนาจที่จะอนุมัติโครงการใหญ่ ๆ ทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาหารที่คนพอจะทำมาหากินได้ พวก เขาขุดภูเขา ถมทะเล โดยไม่สนใจว่าเจ้าของเขาอยู่กันอย่างไร ต่อไปกะปิอร่อยๆ ที่ฉันเอามาฝากคุณก็จะไม่มีแล้ว เพราะที่บ้านฉันจะมี เซฟรอน คุณรู้ไหมมันคืออะไร คือบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ ที่เข้ามาถมทะเลสร้างท่าเรือ เพื่อขุดเจาะหาพลังงานไปขาย โดยไม่สนใจว่าเป็นแหล่งอาหารของชุมชน ป้าของฉัน แกบอกว่า นอนไม่หลับมานานแล้ว แกกังวลว่าจะอยู่อย่างไร แม่ของฉันอายุเก้าสิบปี ฉันไม่กลับบ้านมาสองปี แม่เก็บกระดาษไว้ให้ฉันสามแผ่น…