Skip to main content

โลกนี้คนชั่วมากเหลือเกิน และบรรดาคนชั่ว ๆ ก็ล้วนเป็นผู้มีอำนาจ พวกเขามีอำนาจที่จะอนุมัติโครงการใหญ่ ๆ ทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งอาหารที่คนพอจะทำมาหากินได้ พวก เขาขุดภูเขา ถมทะเล โดยไม่สนใจว่าเจ้าของเขาอยู่กันอย่างไร

ต่อไปกะปิอร่อยๆ ที่ฉันเอามาฝากคุณก็จะไม่มีแล้ว เพราะที่บ้านฉันจะมี เซฟรอน คุณรู้ไหมมันคืออะไร คือบริษัทยักษ์ใหญ่ของต่างชาติ ที่เข้ามาถมทะเลสร้างท่าเรือ เพื่อขุดเจาะหาพลังงานไปขาย โดยไม่สนใจว่าเป็นแหล่งอาหารของชุมชน

ป้าของฉัน แกบอกว่า นอนไม่หลับมานานแล้ว แกกังวลว่าจะอยู่อย่างไร
แม่ของฉันอายุเก้าสิบปี
ฉันไม่กลับบ้านมาสองปี แม่เก็บกระดาษไว้ให้ฉันสามแผ่น เป็นเรื่องการคัดค้านเซฟรอน ฉันรับมาอ่านเงียบ

ในกระดาษนั้นเขียนว่า เซฟรอน การสำรวจปิโตรเลียมอันตรายในท้องทะเลที่เราไม่เคยรู้ว่าในแต่ละปีมีการเจาะระเบิดใต้ท้องทะเลเท่าไหร่ บ้านของเราจะเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทำท่าเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ และสนามบินขึ้นลงห้าสิบเที่ยวต่อวัน สร้างโรงกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี เป็นนิคมอุตสาหกรรม มีคนงานมาทำงานกันมากมาย น้ำจะเน่าเสียแค่ไหนไม่รู้ อากาศที่เคยสะอาดจะปนเปื้อนไปด้วยสารเคมี ขยะอีกมากมาย

ชาวบ้านที่อยู่กันมานานในบ้านของเขา ที่เคยหายใจโล่ง ๆ จะหายใจไม่ออก เจ็บไข้ได้ป่วย และตายไปอย่างไม่รู้สาเหตุในโอกาสต่อไป

ฉันอ่านด้วยความตกใจ ฉันทิ้งบ้านไปนานจริงๆ ฉันคิดว่าไม่นานผู้คนจะต้องอพยพออกจากพื้นที่ เพราะทนอยู่ไม่ได้

ป้าฉันบอกว่า คนที่อยู่ใกล้ ๆ ทะเลยอมขายที่ดินไร่ละล้าน บางคนก็ให้เช่า และเริ่มย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่

นอกจากสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายแล้ว แหล่ง อาหารในทะเลจะถูกทำลาย ชาวประมงที่ทำการประมงก็จะไม่มีใครได้ทำแล้ว เช่นกะปิดีบ้านกลายก็จะเป็นเพียงตำนาน เพราะตัวเคย (กุ้งตัวเล็ก ) ที่ไหนมันจะอยู่ได้


 
ฉันเคยคิด ว่าทะเลไม่ใช่ของใคร ทะเลเป็นของสาธารณะ ยามเย็นใครจะไปก็ได้ และไม่ใช่แค่ของคนเท่านั้น แต่เป็นของสัตว์ร่วมโลก แต่ตั้งแต่บัดนี้ก็จะไม่ใช่แล้ว

คนในชุมชนได้อะไรบ้าง ได้การไม่มีอาหารดี ๆ กิน ได้อากาศเสียหายใจ ได้มีเสียงรบกวนจากเครื่องบินวันละห้าสิบเที่ยว เด็กๆ จะล้มป่วย ผู้คนจะอายุสั้นลง เมืองที่สงบสุขก็จะหมดไป กลายเป็นเมืองนิคมอุตสาหกรรม

ฉันไม่ได้คุยกับแม่เรื่องนี้ แต่การที่แม่เก็บเอกสารการคัดค้านที่แม่เก็บได้ไว้ให้ฉันเป็นคำตอบได้ดีว่า แม่คิดเช่นไรกับสิ่งที่เข้ามาใหม่ แต่แม่อายุเก้าสิบปี อายุมากเกินกว่าจะเดินไปคัดค้านแล้ว

ป้าบอกว่า มีกลุ่มคัดค้าน แต่พลังของพวกเขาน้อยมาก เพราะยังมีคนจำนวนหนึ่งอยากได้เซฟรอนเพราะคิดว่าชีวิตจะดีขึ้น ได้ขายที่ราคาแพง ได้พัฒนา ได้เปลี่ยนแปลง และเซฟรอนก็เริ่มแจกของแล้ว เช่น ข่าวว่าจะให้ห้องประชุมสาธารณะโดยให้ชุมชนร่วมกันสร้าง เพื่อจะได้เขียนชื่อว่า สร้างร่วมกับชุมชน  เชิญ เอกชัย ศรีวิชัย นักร้องที่มีชื่อเสียง มาแสดงให้ดูในวันอนุรักษ์ ทะเลกลาย (ยังมีหน้ามาร่วมอนุรักษ์ คนทำลายจะมาสร้างภาพอนุรักษ์ได้อย่างไร)

ที่ร้ายสุดคือ ป้ายขอต้อนรับเซฟรอน น่าเศร้าจริงๆ เพราะนี่คือ ป้ายยินยอมให้เขามาทำลายบ้านตัวเอง เปิดประตูบ้านให้เขามาเอาสารพิษไปซุกไว้ใต้ที่นอน


บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
มีคำกล่าวว่า "อาหารอายุสั้น คนกินอายุยืน อาหารอายุยืน คนกินอายุสั้น" แรกที่ฟังก็รู้สึกรำคาญคนพูดนิด ๆ เพราะเรากำลังกินอาหารอายุยืนแต่เราไม่อยากอายุสั้น สงสัยใช่ไหมคะว่าอาหารแบบไหนที่อายุยืน อาหารที่ปรุงแต่งมาเรียบร้อยแล้ว แช่ตู้ไว้ได้นานๆ นั่นคืออาหารอายุยืน กินกันได้นานๆ แช่ไว้ในตู้เย็น อาหารพวกนี้คนกินอายุสั้น แต่อาหารอายุสั้นก็พวกเห็ด ผักบุ้ง พวกเหล่านี้เป็นอาหารอายุสั้นอยู่ได้ไม่นาน แต่คนกินอายุยืน แต่เดี๋ยวนี้มีมะเขือเทศอายุยืนด้วยนะคะ เป็นพวกตัดต่อพันธุกรรมแบบให้ผิวแข็งไม่บอบช้ำในระหว่างขนส่ง
แพร จารุ
  1   เป็นนักเขียนมีความสุขไหม   วันหนึ่งฉันต้องตอบคำถามนี้ “เป็นนักเขียนมีความสุขไหม” ผู้ที่ถามคำถามนี้เป็นเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ ชั้นประถมปีที่ 5 ฉันรู้สึกดีใจที่มีเด็กถามเรื่องความสุขมากกว่าเรื่องรายได้
แพร จารุ
ฉันห่างกรุงเทพฯ มานานจริงๆ นานจนไปไหนไม่ถูก ก่อนฟ้าสางรถทัวร์จอดตรงหัวมุมถนน ฉันเดินตรงเข้าไปทางถนนข้าวสารตามพื้นถนนแฉะ หาที่นั่งรอหลานมารับแต่ก็หาไม่ได้ พื้นแฉะ ๆ ผู้คนกำลังล้างพื้นกันอยู่ จึงตัดสินใจ เดินออกจากถนนข้าวสารมุ่งตรงไปทางกองฉลากกินแบ่งรัฐบาล มีคนจรนอนห่มผ้าเก่า ๆ อยู่มากมาย ตามทางเดิน  
แพร จารุ
มีเพื่อนอย่างน้อยสองคนตกหล่นไปจากชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราเขียนจดหมายคุยกันอยู่เสมอ ๆ ต่อมาฉันเลิกตอบจดหมายเพื่อนทั้งสองคน 
แพร จารุ
2 กันยายน 2552 นั่งกินมะขามหวานเพลิน ๆ มะขามก็เปรี้ยวขมขึ้นมาทันที เพื่อนโทรมาบอกว่า เธอไปที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้ยินเสียงตามสายที่ รพ.ขอบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กชาวเขาที่แม่มาคลอดตายที่โรงพยาบาล “แม่มาคลอดตายที่โรงพยาบาล แสดงว่าเธอตายระหว่างคลอด” เพื่อนตอบว่าใช่ “เด็กยังอยู่รอดปลอดภัย” “ใช่”    
แพร จารุ
"อะไรเอ่ยมันโผล่ขึ้นมาจากดิน" คำถามเล่น ๆ ของเด็ก ๆ สมัยก่อนเราจะตอบว่า ขอม เพราะเคยเรียนเรื่องพระร่วง  ตอนขอมดำดิน แต่ เดี๋ยวนี้ถ้าไปตอบว่า "ขอม" เด็กไม่เข้าใจ
แพร จารุ
1 วันก่อนไปท่ากาน (ท่ากานเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ในอำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ ) พบเด็ก หญิงสองคน เอาก้านกล้วยมาแกว่งไปมากระโดดเล่นกัน ดูน่ารักดี เป็นการเล่นแบบหาของใกล้ตัวมาเล่นกัน
แพร จารุ
10 กันยายน 2552 น้องคนหนึ่งโทรศัพท์มาบอกว่า “มีเรื่องตลกเศร้ามาเล่าให้ฟัง” ฉันหัวเราะ ไม่อยากฟังเธอเล่าอะไรเลยเพราะกำลังเจ็บหูอย่างแรง กำลังจะไปหาหมอ แต่เธอรีบบอกก่อนว่า “พี่ยังไม่รู้ใช่ไหม ลุงหมื่นแกฝายพญาคำ กับพ่อหลวงสมบูรณ์ ผู้ช่วยแกฝาย เขาเซ็นยินยอมให้กรมชลประทานสร้างประตูระบายน้ำแล้ว”
แพร จารุ
   บก.สุชาติ สวัสดิ์ศรี เทียบเชิญฉันเขียนเรื่องสั้น ช่อการะเกด ฉบับเทียบเชิญนักเขียนเก่าที่เคยเขียนช่อการะเกด
แพร จารุ
เธอนิ่งเงียบหลังจากกินอาหารเสร็จ "เศร้าทำไม" ฉันถามเธอ "กำลังดูกระถางต้นไม้อยู่" เธอตอบไม่ตรงกับคำถาม ฉันมองไปที่กระถางต้นไม้ มีอะไรตายอยู่ในนั้นที่ทำให้เธอเศร้า หรือว่าเศร้าที่ต้องมากินอาหารใต้ที่เมืองเหนือทั้งที่เธอเพิ่งเดินทางมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
แพร จารุ
 ผู้ชายคนหนึ่ง เลี้ยงปลวกเพื่อเอาปลวกไปเลี้ยงปลาดุก เขาบอกว่า เขาเฝ้ามองปลวกตัวอ้วน ๆ ที่ค่อยเติบโตขึ้น และเอาปลวกไปให้ปลาดุกกิน เขาอธิบายตัวเองว่าเป็นวิถีแห่งสัตว์โลก วิธีการใช้ชีวิตให้อยู่รอดฉันแค่สะดุดใจตรงที่เลี้ยงดูเขาไว้ก่อนแล้วค่อยจัดการ ฉันคิดว่า ถ้ามันกินกันเองตามวิถีชีวิตไม่เป็นไรฉันคิดถึงถ้อยคำหนึ่ง จำไม่ได้แล้วว่า ใครพูด "เขารัก...เหมือนคนเลี้ยงหมูรักหมูที่เลี้ยงไว้" นั่นหมายถึงรักและดูแลอย่างดีเพื่อเอาไว้ฆ่าและขาย
แพร จารุ
1  ฉันเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความตายครั้งแรกเมื่อพ่อตายจากไป ในวันที่แม่ พี่ ๆและ ญาติ ๆ ต่างช่วยกันจัดงานให้พ่อ ผู้หญิงเตรียมอาหาร ปอกหอมกระเทียม เด็ดก้านพริกขี้หนู หั่นตะไคร้ ผู้ชายเตรียมไม้ฟืนเพื่อทำอาหาร หุงข้าว ต้มแกง ต้องหุงข้าวด้วยกระทะใบใหญ่  ต้องทำอาหารจำนวนมากในเวลาหลายวัน เรามีญาติเยอะ มีเพื่อนบ้าน และคนรู้จักมากมาย เพราะเราไม่ได้มีพ่อที่ดีต่อลูกเท่านั้นแต่มีพ่อที่ดีต่อผู้อื่นด้วย