Skip to main content

เรามักได้ยินคนพูดว่า ดูละครแล้วย้อนมองตน เพราะชีวิตของคนในละครมักสะท้อนให้เห็นแง่มุมต่างๆในชีวิตได้ใช่ไหมครับ แต่มีคนจำนวนมากบอกว่าชีวิตใครมันจะโชคร้ายหรือลำบากยากเย็นซ้ำซ้อนแบบตัวเอกในละครชีวิตบ้างเล่า  แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ทำให้ผมมั่นใจว่าเรื่องราวในชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย หากมันจะทำให้ใครตัดสินใจลุกขึ้นมาทำอะไรได้ก่อนที่จะสายไปก็จะยินดีครับ เพราะว่าบางเหตุการณ์เมื่อผ่านพ้นไปเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว แม้จะรู้แล้วว่าต้องทำอะไรก็ตาม เรื่องราวของน้องคนนี้เข้ามาปรึกษาปัญหาของพี่สาวและครอบครัวอาจจะทำให้ผู้อ่านทุกท่านได้เข้าใจอะไรมากขึ้นครับ

“มารดาข้าพเจ้าเริ่มการดำเนินการขอสัญชาติไทยเพื่อให้เป็นคนไทยโดยสมบูรณ์ เนื่องจากแม่เป็นชาวไทยภูเขาซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลใกล้ชายแดนประเทศพม่า  หลังจากนั้นแม่เข้ามาทำงานในตัวเมืองนานนับสิบปีก่อนจะแต่งงานกับพ่อจนมีข้าพเจ้าและพี่สาว   การดำเนินการขอสัญชาตินั้นลำบากมากเพราะในกระบวนการครั้งแรกนั้นได้ถูกทนายความคนหนึ่งไปติดต่อเพื่อดำเนินการขอสัญชาติเป็นคนไทยให้ แต่ไม่ประสบความสำเร็จแถมยังถูกหลอกเอาเงินไปมาก แต่แม่ข้าพเจ้าก็พยายามอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องใช้เงินมากแค่ไหนก็ตามเพราะนี่คือความฝันของแม่ที่จะได้มีสัญชาติไทยและไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป และพยายามตามเรื่องจากทนายความเสมอโดยเขากล่าวอ้างว่าต้องรอ ระยะเวลาที่ดำเนินการเนิ่นนานถึง 8 ปี เหลืออีกเพียงยื่นเรื่องส่งกลับให้รัฐมนตรีเซ็นอนุมัติก็ดันเกิดการรัฐประหาร ทำให้การพิจารณาถูกระงับไว้ ซึ่งโดยปกติการขอสัญชาติควรจะขอตามสามีที่เป็นคนไทยอยู่แล้ว แต่ทนายของข้าพเจ้ากลับยื่นเรื่องเป็นสัญชาติตามลูกสาวซึ่งตรวจสอบเอกสารต่างๆมากมาย  จนสุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จเพราะกระบวนการทั้งหมดต้องหยุดลงเพราะการรัฐประหาร

แต่เรื่องกลับเกินคาด เนื่องจากขณะนี้แม่ข้าพเจ้าได้รับสัญชาติแล้ว แต่จดหมายกระทรวงมาช้าไป 15 วัน  เพราะแม่ข้าพเจ้า ท่านได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปก่อนจะรับรู้เรื่องนี้   โดยท่านเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุในเดือนตุลาคม 2550 ที่จังหวัดสุโขทัย  เนื่องจากทางจังหวัดเตรียมงานเพื่อปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์สำหรับงานเตรียมลอยกระทง โดยการก่อสร้างของบริษัทก่อสร้างจะมีเสียงบ่นชาวบ้านเพราะวางอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือกองทราย กองอิฐไว้บนถนน   จนเมื่อวันที 26 ตุลาคม แม่และพี่สาวข้าพเจ้าเดินทางโดยรถจักรยานยนต์ออกจากโกดังเก็บของเพื่อกลับไปร้าน และในคืนนั้นเป็นวันที่การไฟฟ้ามีนโยบายปิดไฟริมถนนเพื่อประหยัดพลังงานพอดี

พี่สาวข้าพเจ้าบอกว่าคืนนั้นทัศนะวิสัยไม่ดี ประกอบกับกองดินที่เกิดเหตุเป็นกองดินกองแรกที่เมื่อขับออกไปจะเจอโดยไม่ทันตั้งตัว  กองดินเป็นดินลูกรังซึ่งสีเรียบไปกับพื้นถนนแสงไฟจากหน้ารถสาดไปไม่ถึง แถมไม่มีสัญญาณใดๆเตือน   ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แม่ข้าพเจ้ามีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะไม่ได้สติ อาการโคม่าอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่ 2 วัน จนท่านจากไป   หลังจากนั้นครอบครัวของข้าพเจ้าก็ต้องจัดการงานศพ แต่ตำรวจได้เร่งรัดจัดเรียกตัวพี่สาวไปสอบปากคำ และตั้งข้อหาทำให้ทรัพย์สินของรัฐเสียหาย โดยตั้งข้อกล่าวหาให้พี่สาวข้าพเจ้าเป็นผู้ต้องหาที่ 1 บริษัทก่อสร้างเป็นผู้ต้องหาที่ 2 รถขนดินเป็นผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกว่าไม่เป็นธรรมเลย ที่ครอบครัวข้าพเจ้าต้องสูญเสียแม่ไปแล้วยังต้องเจอข้อกล่าวหาอีก

เมื่อตำรวจเขียนสำนวนฟ้องแล้วพยายามเร่งให้พี่สาวข้าพเจ้าเซ็นยอมรับสารภาพตามสำนวนที่เขียนขึ้น เมื่อพี่สาวอ่านดูก็พบว่าข้อความในสำนวนไม่ตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เพราะสำนวนได้อธิบายว่าพี่สาวข้าพเจ้าขับขี่รถด้วยความเร็วสูง ซึ่งไม่เป็นความจริงเลยเพราะคืนนั้นมืดมากและมีแม่ซ้อนท้ายมาอีกด้วย ประกอบกับทนายความที่พี่สาวข้าพเจ้าติดต่อไว้ติดธุระไม่สามารถมาดูสำนวนดังกล่าวได้   ภายหลังทนายพี่สาวข้าพเจ้าทราบเรื่อง ก็พยายามขอให้ตำรวจแก้ไขสำนวนแต่ไม่ทันกาล เพราะตำรวจส่งสำนวนไปศาลแล้ว ขณะที่มาปรึกษานี้ศาลได้เรียกพี่สาวข้าพเจ้าไปขึ้นศาล  2 ครั้งแล้ว  ซึ่งจำเลยที่ 3 คือรถขนดินศาลตัดสินว่าไม่ผิดเพราะได้ปฏิบัติตามคำสั่งนายจ้างบริษัทก่อสร้างจึงสั่งให้ตัดออกไปจากสำนวน 

ในการเรียกไต่สวนครั้งแรกก่อนการไต่สวนครั้งที่สอง บริษัทก่อสร้างพยายามเจรจากับพี่สาวข้าพเจ้าว่าจะจ่ายแปดหมื่นบาทแล้วรับสารภาพทั้ง 2 ฝ่ายแล้วจบไป ซึ่งบริษัทก่อสร้างพูดเข้าข้างตนเองเพื่อหลอกให้พี่สาวข้าพเจ้ารับสารภาพ  ทั้งที่จริงแล้วเงินก้อนนั้นเป็นเงินที่จะได้อยู่แล้วจาก พ.ร.บ. ของรถจักรยานยนต์ข้าพเจ้าที่จะจ่ายเมื่อการตัดสินสิ้นสุดลง แต่พี่สาวข้าพเจ้าไม่รับข้อเสนอในการชดเชยค่าโรงพยาบาล ค่าจัดการงานศพ ต่างๆ   ข้าพเจ้าจึงรู้สึกไม่เป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ปัญหาคดีความยังคงอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลอยู่”

วิเคราะห์ปัญหา

1.             การขอสัญชาติไทย สามารถใช้สิทธิใดในการขอสัญชาติได้บ้าง และวิธีใดจะง่ายกว่ากัน

2.             การเรียกเงินจำนวนมากของทนายที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ตกลงไว้ สามารถจัดการอย่างไรกับทนายความได้บ้าง

3.             การประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนจนทำให้มีผู้เสียชีวิต จะต้องมีการพิสูจน์ถูกผิดกันอย่างไร

4.             ใครจะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุมากกว่ากัน และใครจะต้องรับโทษทางอาญา

5.             หากตำรวจเร่งรัดให้เราเซ็นเอกสารสำนวนที่ไม่ตรงความจริง เราจะสามารถทำการแก้ไขสำนวนได้หรือไม่ จะมีข้ออ้างอย่างไรได้บ้าง

6.             การเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น สามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง

การนำกฎหมายมาแก้ไข

1.             การขอสัญชาติไทย สามารถใช้สิทธิใดในการขอสัญชาติได้ตามหลักสายเลือดและหลักดินแดน ซึ่งวีนี้การขอตามหลักดินแดนอาจยากเพราะไม่สามารถพิสูจน์สถานที่เกิดได้เพราะผ่านมานานเช่นเดียวกับหลักสาเลือดเพราะไม่พูดถึงตายายว่าอยู่ที่ใด   วิธีง่ายที่สุดคือการขอเปลี่ยนสัญชาติตามสามีซึ่งเป็นคู่สมรสกัน  เพราะการขอตามบุตรจะพิสูจน์ยากกว่าเนื่องจากไม่มีความเชื่อมโยงกับการเกิดของแม่

2.             ทนายที่เรียกเงินจำนวนมากในลักษณะหลอกลวงเอาเงินโดยไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่ตกลงไว้ สามารถร้องเรียนต่อสภาทนายความได้ เพื่อถอนใบอนุญาตทนายความ

3.             การประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนจนทำให้มีผู้เสียชีวิต จะต้องมีการพิสูจน์ถูกผิดกันตามหลักกฎหมายอาญาว่าด้วยลักษณะภาวะวิสัย กล่าวคือ ต้องมีการจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลาและสถานที่เกิดเหตุขึ้นมา เพื่อดูว่าใครประมาทกกว่ากัน โดยกฎหมายจราจรห้ามใครทำสิ่งต่างๆมาวางกีดขวางการจราจรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีการเตือนภัยอันตรายอย่างเหมาะสม

4.             ผู้ที่ประมาทกว่าจะต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุมากกว่าซึ่งในกรณีนี้ผู้ที่นำวัสดุมาวางไว้บนถนนโดยเป็นอันตรายต่อการจราจรมีความผิดมากกว่า  โดยดูว่าใครฝ่าฝืนกฎหมายการจราจรทางบกก็จะต้องรับโทษทางอาญาทั้งความผิดต่อรัฐ และความผิดต่อชีวิตผู้ตาย

5.             หากตำรวจเร่งรัดให้เราเซ็นเอกสารสำนวนที่ไม่ตรงความจริง เราจะสามารถทำการแก้ไขสำนวนได้ โดยอาจอ้างว่าขณะที่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีทนายหรือที่ปรึกษาทางกฎหมายไปด้วย และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้แจ้งสิทธิในกระบวนการยุติธรรมให้ทราบ เพื่อทำลายความชอบธรรมของสำนวนนั้นลง

6.             การเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินนั้น สามารถดำเนินการได้ในสำนวนฟ้องนั้นเลย กล่าวคือ ขอให้แก้สำนวนตรงกับความจริงที่เกิดขึ้น และร้องให้อัยการและศาลกำหนดค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นคดีแพ่งฯเกี่ยวเนื่องอาญาอยู่ในคราวเดียวกัน

ช่องทางเรียกร้องสิทธิ

1.             การร้องเรียนทนายประพฤติมิชอบต้องร้องเรียนไปยังสภาทนายความประจำจังหวัดหรือส่วนกลางที่กรุงเทพมหานคร

2.             การติดต่อเรื่องขอสัญชาติหากมีความหน่วงช้าเกินไปอาจนำขึ้นฟ้องต่อศาลปกครองให้เร่งรัดได้

3.             การดำเนินการเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุ ควรเริ่มจากการร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่ออัยการเจ้าของสำนวน เพื่อปรับสำนวนให้ตรงกับข้อเท็จจริง

4.             หากปล่อยให้มีการนำเอกสารที่มีการเซ็นสารภาพขึ้นสู่ศาลอาญาก็จะเป็นการยากในการต่อสู้คดี เพราะอย่างมากก็เพียงได้แต่ปัดป้องความผิดให้พ้นตัว และไม่สามารถฟ้องซ้ำให้ศาลตัดสินในข้อเท็จจริงเดิมอีกครั้ง   จึงต้องระวังเรื่องการเขียนสำนวนในชั้นพนักงานสอบสวนอย่างมาก

5.             หากคิดว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเจ้าของสำนวนไม่เป็นธรรม อาจร้องเรียนผู้บังคับบัญชา หรือร้องเรียนไปยัง ปปช. ได้

สรุปแนวทางแก้ไข

                เรื่องทนายนั้นสามารถร้องเรียนสภาทนายเกี่ยวกับพฤติกรรมเพื่อถอนใบอนุญาตได้   ในกรณีแรกแม่สามารถได้สัญชาติจากการสมรสกับพ่อโดยเอาทะเบียนสมรสไปยืนยันต่อทะเบียนราษฎร์โดยใช้หลักการเปลี่ยนสัญชาติตามคู่สมรส  ส่วนกรณีรถชนนั้นใช้หลักละเมิดและความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และสิทธิในกระบวนการยุติธรรมส่วนของพยาน      โดยต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่อของเทศบาลที่นำรถมาจอดบนถนนสาธารณะทำให้เกิดรถชนจนผู้ขับถึงแก่ความตาย  หากผู้ใดประมาทกกว่าก็จะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหามากกว่าตามสัดส่วน  และการเซ็นเอกสารโดยไม่ได้อ่านก็สามารถนำขึ้นต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อมิให้นำเอกสารมาปรักปรำตัวเอง  และร้องเรียนพนักงานสอบสวนต่อผู้บังคับบัญชาและ ปปช. ได้

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
การพัฒนาสิทธิแรงงานรับจ้างอิสระ (Freelancer) ต้องยึดโยงกับหลักกฎหมายสำคัญเรื่องการประกันสิทธิของแรงงานอันมีสิทธิมนุษยชนเป็นพื้นฐาน (Human Rights-Based Approach – HRBA) ไว้ เพื่อเป็นรากฐานทางกฎหมายในการอ้างสิทธิและเสนอให้ภาครัฐสร้างมาตรการบังคับตามสิทธิอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่การประกันรายได้รูปแบบ
ทศพล ทรรศนพรรณ
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของปัจเจกชนจากการเก็บข้อมูลและประมวลผลโดยบรรษัทเอกชนจำต้องปกป้องคุ้มครองสิทธิของเจ้าของข้อมูลตามมาตรฐานที่กำหนดหน้าที่ของผู้ควบคุมระบบตามกฎหมายด้วย เนื่องจากบุคคลหรือกลุ่มองค์กรเหล่านี้ทำหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิเจ้าของข้อมูลในหลายรูปแบบ อาทิ การให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพปั
ทศพล ทรรศนพรรณ
บุคคลแต่ละคนย่อมมีทุนที่แตกต่างกันไปทั้ง ทุนความรู้ ทุนทางเศรษฐกิจ ทำให้การตัดสินใจนั้นตั้งอยู่บนข้อจำกัดของแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นการไม่รู้เท่าทันเทคโนโลยี ขาดความรู้ทางการเงิน ไปจนถึงขาดการตระหนักรู้ถึงผลกระทบต่อสุขภาพตนเองและผู้อื่นในระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้นรัฐไทยยังมีนโยบายที่มิได้วางอยู่บนพื้นฐานข
ทศพล ทรรศนพรรณ
บทบัญญัติกฎหมายที่ใช้เป็นรากฐานในการอ้างสิทธิในการมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้น จะพบว่ารัฐไทยได้วางบรรทัดฐานทางกฎหมายที่รับสิทธิของประชาชนในการรวมกลุ่มกันเพื่อแสดงออกในประเด็นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นจากหลักการพื้นฐานสำคัญที่เชื่อมโยงเรื่องสิทธิม
ทศพล ทรรศนพรรณ
เทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่เข้ามามีอิทธิพลแทบจะทุกมิติของชีวิต ส่งผลให้พฤติกรรมด้านการปฏิสัมพันธ์ของประชาชนเปลี่ยนแปลงไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี มีประชาชนจำนวนมากที่ใช้เทคโนโลยีในการหา “คู่” หรือแสวง “รัก” ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการกระทำความผิดที่เรียกว่า Romance Scam หรือ “พิศวาสอาชญากรรม”&
ทศพล ทรรศนพรรณ
เมื่อถามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนว่าอยากเห็นสังคมไทยเป็นเช่นไรในประเด็นการมีส่วนร่วมต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะ หรือมีความคาดหวังให้รัฐไทยปรับปรุงอะไรเพื่อส่งเสริมการพิทักษ์สิทธิมนุษยชนของกลุ่มเสี่ยง   นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในไทยได้ฉายภาพความฝัน ออกมาดังต่อไปนี้
ทศพล ทรรศนพรรณ
นักปกป้องสิทธิมนุษยชนผู้คร่ำหวอดอยู่ในสนามมายาวนานได้วิเคราะห์สถานการณ์การคุกคามผ่านประสบการณ์ของตนและเครือข่ายแล้วแสดงทัศนะออกมาในหลากหลายมุมมอง ดังนี้
ทศพล ทรรศนพรรณ
สถานการณ์ในด้านสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศนั้น มีความสัมพันธ์กับหลายปัจจัยที่อาจเกิดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาการละเมิดต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนภายในประเทศที่เกิดจากข้อค้นพบจากกรณีศึกษา มีปัจจัยดังต่อไปนี้1. สถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับบริบทภายในประเทศ
ทศพล ทรรศนพรรณ
บทวิเคราะห์ที่ได้จากการถอดบทสัมภาษณ์นักปกป้องสิทธิมนุษยชนมากประสบการณ์ ในหลากหลายภูมิภาคไปจนถึงความแตกต่างของการทำงานกับกลุ่มเสี่ยงที่มีปัญหาสิทธิแตกต่างกันไป   เป็นที่ชัดเจนว่าเขาเหล่านั้นมีชีวิตและอยู่ในวัฒนธรรมแตกต่างไปจากมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนและนิติรัฐที่ปรากฏในสังคมตะวันตก ซึ่งสะ
ทศพล ทรรศนพรรณ
การคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้ถูกรับรองไว้โดยพันธกรณีระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ให้ความสำคัญประกอบจนก่อให้เกิดอนุสัญญาเฉพาะสำหรับกลุ่มเสี่ยงนั้น ๆ ประกอบไปด้วย สตรี, เด็ก, เชื้อชาติ และ แรงงานอพยพ รวมถึง ผู้พิการ โดยกลุ่มเสี่ยงมีสิทธิที่ถูกระบุไว้ในปฏิญญาว่าด้วย
ทศพล ทรรศนพรรณ
แนวทางในการสร้างนโยบาย กฎหมาย และกลไกเพื่อคุ้มครองสิทธิประชาชนจากการสอดส่องโดยรัฐมาจาการทบทวนมาตรฐานและแนวทางตามมาตรฐานสากลเพื่อสร้างข้อเสนอแนะเชิงนโยบายครอบคลุม 2 ประเด็นหลัก คือ
ทศพล ทรรศนพรรณ
ต้นปี 2563 หลังจากการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ บรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองไทยที่ถูกกดไว้มาตั้งแต่หลังการรัฐประหาร 2557 ก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง เกิดการเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมืองเพื่อต่อต้านรัฐบาลกระจายไปทั่วทุกจังหวัดในรัฐไทย จุดสำคัญและเป็นเรื่องที่ไม่ปรากฏขึ้นมาก่อนในหน้าประว