Skip to main content

วันนี้

เป็นวันแรกของการเป็นครู ผมเตรียมตัวสอนมาเต็มที่ สอนหลายวิชา
บอกก่อนว่าเป็นโรงเรียนเอกชนอยู่ใกล้สถานีรถไฟเชียงใหม่ เปิดสอนเด็กเล็กจนถึงมัธยมปีที่สาม ครูที่สอนส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว

มีคนแก่คนหนึ่งเป็นฝ่ายการเงิน ครูใหญ่เป็นผู้หญิง เป็นเจ้าของโรงเรียน ไม่สอนแต่อยู่ฝ่ายขายอาหารของโรงเรียน ผมสอน 29 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ว่างเพียง 1 ชั่วโมง ปรกติครูท่านอื่นสอน 24-25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นั่นคือผมสอนมากกว่าท่านอื่น 5 ชั่วโมง ก็ช่วยสอนวิชาเบาๆ ให้พี่ๆ ที่สอนประจำชั้น เช่น พลศึกษาวาดเขียน ร้องเพลง...เป็นมุมหนึ่งในหลายมุมของชีวิตครูเอกชน


วันแรก

ผมสอน 6 ชั่วโมงเต็ม เป็นหนุ่มร่างกายแข็งแรง สอนใหม่ยังไม่ชำนาญ บรรยาย อธิบายตลอด ตอนเย็นกลับบ้านหมดแรง เสียงหายไปหมด พูดไม่มีเสียง เหนื่อยจนกินอะไรไม่ลง ต้องนอนนิ่งๆ บนที่นอน ทำได้เพียงกลอกลูกตาไปมา เท่านั้นจริงๆ...พอนานไปค่อยปรับตัว สอนแบบนักเรียนได้ร่วมกิจกรรมมากขึ้น ครูคอยควบคุม เช่น นักเรียนทำงานเป็นกลุ่ม นักเรียนทดลอง นักเรียนร้องเพลงเกี่ยวกับบทเรียน เล่นเกม ก็ดีขึ้น


ครูยังหนุ่ม

วัยเพียง 21-22 ปี นักเรียนมัธยมต้นอายุ 16-17 ปี นักเรียนหญิงเริ่มสู่วัยสดใส บางคนหน้าตาสะสวย ครูหนุ่มชักวูบๆ วาบๆเหมือนกัน แต่จริยธรรมในใจมีสูงพอ จึงช่วยรั้งให้อยู่ในกรอบได้


ฤดูกีฬา

ของเชียงใหม่มาถึง ผมกับครูอาทิตย์รับผิดชอบ เป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬาปิงปอง ทีมโรงเรียนของเราได้เข้าชิงชนะเลิศกับโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อเสียงมากของเชียงใหม่ เป็นประเภทปิงปองชายคู่ ระดับประถมศึกษา

ผู้เล่นของเราเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6 ถ้าเทียบฝีมือจากการแข่งขันในรอบแรก เด็กของเราฝีมือเหนือกว่า มีลูกตบที่เรียกว่า “ท็อปสปิน” ที่เด็ดขาดกว่า ลูกนี้ร้ายแรงมาก ตีไปแล้ว เมื่อลูกกระทบโต๊ะ ลูกจะพุ่งวาบขึ้นเป็นวงโค้งอย่างรวดเร็ว ยากที่คู่ต้อสู้จะรับ และลูกเสริฟลูกศิษย์ของเรา จะเสริฟได้ทั้งแบ็คแฮนด์และโฟร์แฮนด์ ลูกเสริฟนี้จะหมุนไปซ้ายหรือขวา แล้วแต่ผู้เสริฟจะบังคับมัน
ด้วยเหตุนี้ ผมกับครูอาทิตย์ จึงฝันทั้งกลางวันกลางคืนว่า เหรียญทองจะหนีไปไหน


อนาคต

ไม่มีใครทราบจริงๆ บางเรื่องไม่ทราบยิ่งดี จะได้ไม่ต้องปวดหัวปวดใจ
นักกีฬาคู่คนหนึ่งชื่อ “ชนะชัย” ตกน้ำเสียชีวิต ช่วงโรงเรียนปิดเสาร์อาทิตย์ คณะครูไปร่วมงานศพกันทุกคน ผมกับครูอาทิตย์นั่งพับเพียบ มองหีบศพลูกศิษย์อย่างรันทดหดหู่ เด็กชายพนัส นักกีฬาปิงปองคู่กับเด็กชายชนะชัย นั่งขัดสมาธิร้องไห้เบาๆ ขี้มูกซึมจมูก

ครูอาทิตย์พูดกับผมเบาๆ เหมือนพูดกับตนเอง

ผมไม่เอาเหรียญทองก็ได้...แต่ขอชีวิต ชนะชัย คืนมาได้ไหม?”

โธ่...ชีวิตคนเป็นอย่างนี้เหรอ บางเรื่องมันหนักหน่วงเกินรับจริงๆ”

หัวใจผมพูด.


บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง