Skip to main content

                                                                                                                               สมจิต  คงทน
                                                                              กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (โลโคลแอก)

ฉันจึงยืนหยัดอยู่ที่นี่

เมื่อฉันมีโอกาสติดสอยห้อยตามทีมถ่ายทำวีซีดีสารคดีเรื่องการจัดการที่ดินโดยชุมชนของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย และได้เดินทางไปยังหมู่บ้านหนึ่งในเทือกเขาบรรทัด เพื่อบันทึกเรื่องราวของพี่น้องคนไร้ที่ดินที่ได้ร่วมกันต่อสู้เพื่อยืนหยัดอยู่ในที่ดินและชุมชนของตนเองเอาไว้ได้อย่างสง่างามและมีศักดิ์ศรี



ป่าเทือกเขาบรรทัด

บ้านทับเขือ-ปลูกหมู เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อของจังหวัดตรังและจังหวัดพัทลุง ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เส้นทางสัญจรค่อนข้างลำบากมากต้องลงเขาขึ้นเขาสลับกันไปมาตลอดทาง ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกทางก็จะลื่นมาก แต่ดูเหมือนว่าชาวบ้านที่นี่ค่อนข้างคุ้นชินกับการใช้ชีวิตแบบนี้แล้ว

ชาวบ้านที่นี่มีการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆละ 3-4 หลังคาเรือนแต่ละกลุ่มอยู่ห่างกันพอสมควรและส่วนใหญ่ก็เป็นเครือญาติกัน ไปมาหาสู่ระหว่างกันด้วยการเดินเท้าและมอเตอร์ไซค์เป็นหลัก มีสมาชิกทั้งหมดประมาณ 45 ครอบครัว มีอาชีพหลักทำสวนยางพาราซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูก ครอบครัวละประมาณ 5-10 ไร่ ไม่เกินนี้

ชุมชนเล็กๆแห่งนี้เริ่มก่อร่างขึ้นเมื่อ 51 ปีที่แล้วหรือประมาณปี พ.ศ.2500  เพราะต้องการที่ดินทำกินชาวบ้านจึงมาปักหลักอาศัยอยู่ที่นี่

วิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นไปอย่างเรียบง่ายแทบไม่ต้องใช้เงินในการซื้อหาของกินเพราะทุกอย่างหาได้จากป่า อย่างวันที่พวกเราไปถึงพี่น้องที่นี่ได้ทำอาหารมื้อกลางวันสำหรับรับประทานร่วมกัน แกงหน่อไม้สด ต้มกะทิผักหวาน น้ำพริกกะปิ กินกับผัดสด เช่น ลูกเนียง สะตอ และผักพื้นบ้านอื่นๆ ตบท้ายด้วยขนุน คุณลุงสมาชิกในหมู่บ้านบอกเราว่าหน้านี้ยังไม่มีทุเรียนและจำปาดะ (ไม่อยากคิดเลยถ้าต้องกินสองอย่างหลังไปด้วยชีวิตวันนั้นจะเป็นอย่างไรนะ) อาหารมื้อนี้ทำให้พวกเราลุยงานต่อได้ทั้งวันไปจนเย็นย่ำ และก็เป็นกับข้าวที่ทุกคนประทับใจมากอย่างไม่มีวันลืมจริงๆ

 
พื้นที่ทำกินของชาวบ้าน

แต่เบื้องหลังความเป็นอยู่ของชาวบ้านหมู่บ้านทับเขือ-ปลักหมู มีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นที่ทำให้พวกเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ต้องลุกขึ้นมาสู้ เพื่อปกป้องพื้นที่ทำกิน เราไม่มีที่ไปแล้ว" นายสมนึก พุฒนวล ที่ปรึกษากลุ่มฯ บอกกับพวกเราว่า "เมื่อปี 2550 มีข่าวมาทางวิทยุว่าจะมีการชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง จากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเพราะอุทยานประกาศทับที่ทำกินดั้งเดิมของชาวบ้าน เมื่อฟังแล้วก็ฉุกคิดว่า ทำไมปัญหาเหมือนของเราเลย จึงตัดสินใจเดินทางไปที่ชุมนุม ไม่คิดว่า....เมือไปถึงก็เจอพี่น้องจากหมู่บ้านเดียวกันประมาณ 10 คนอย่างไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน"

นางปราณี แท่นมาก
หนึ่งใน 10 ของชาวบ้านที่เข้าร่วม  พูดด้วยน้ำเสียงแจ่มชัดว่า "เมื่อพวกเรากลับมาถึงหมู่บ้านได้ร่วมกันวางแผนเดินสายเชิญชวนพี่น้อง ใช้เวลาประมาณ 7 วันในการเดินส่งข่าวถึงทุกคนในหมู่บ้าน เพื่อให้มาเจอกัน ซึ่งในครั้งแรกสมาชิกทุกคนได้เข้าร่วมโดยพร้อมเพรียง โดยมีพี่เลี้ยงจากเครือข่ายชุมชนรักษ์เทือกเขาบรรทัดเข้าร่วมด้วย "

เนื่องจากสถานการณ์ปัญหาตอนนั้นกำลังคุกรุ่นและรอวันคลี่คลาย เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานมีการข่มขู่ชาวบ้านมาตลอดตั้งแต่ปี 2525 ว่าห้ามโค่นต้นยาง ห้ามซ่อมแซมทางสัญจรไปมา ห้ามซ่อมบ้าน รวมถึงการจับกุมชาวบ้านและเรียกค่าเสียหายกับชาวบ้านบางรายเป็นเงินถึง 40,000 บาท

การประชุมในครั้งแรกจึงมีโครงสร้างการทำงานที่ชัดเจน คือประกอบด้วยประธาน กรรมการ มีการตั้งกองทุนและมีมติร่วมกันว่าจะออกมาเจอกันทุกวันที่ 1 ของเดือน ทั้งนี้เพื่อพุดคุยสารทุกข์สุกดิบและประเมินสถานการณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง

ชาวบ้านที่อยู่กับป่าจะมีความรัก ความผูกพันและหวงแหนทรัพยากรทุกชนิดที่อยู่ในป่าเช่นเดียวกับพี่น้องชุมชนทับเขือ-ปลักหมู ซึ่งพวกเขามีกฎกติกา การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนที่ทุกคนต้องเคารพและยึดถือเป็นต้นว่า ห้ามทำลายป่าสมบูรณ์เด็ดขาด ห้ามล่าสัตว์ที่กำลังจะสูญพันธุ์  ให้ปักเขตแดนพื้นที่ทำกินและพื้นที่ป่าให้ชัด  สมาชิกที่ต้องการเปลี่ยนมือการใช้ประโยชน์ต้องแจ้งให้กรรมการทราบ รวมถึงการมีสมุดบันทึกบอกรายละเอียดว่าที่ดินของใคร อยู่ที่ไหน จำนวนเท่าไหร่ เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าและเปลี่ยนมือที่ดิน  ข้อห้ามเหล่านี้เกิดจากการรวมตัวขององค์กรชุมชนเพื่อปกป้องรักษาป่า และที่สำคัญคือเพื่อความสันติสุขในชุมชน       

การรวมตัวของกลุ่มชาวบ้านที่นี่ทำให้เกิดวัฒนธรรมร่วมแรงร่วมใจ นายเวียน ทองขวิด ประธานกลุ่มเล่าถึงเรื่องนี้ว่า
"เมื่อบ้านหลังหนึ่งของสมาชิกในชุมชนกำลังจะพังไม่สามารถอยู่ได้แล้ว จึงได้แจ้งต่อกรรมการชุมชนว่ามีความจำเป็นต้องสร้างใหม่ ระหว่างที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันสร้างบ้าน ได้มีเจ้าหน้าที่อุทยานประมาณ 10 คน เดินทางมาเจอพอดีและได้สอบถามเรื่องราวเป็นอย่างไร ตนก็บอกความจริงกับเจ้าหน้าที่ไป ถ้าไม่เชื่อให้เข้าไปดู  เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าวก็มิได้พูดว่าอะไร" เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านมีกำลังใจ กล้าหาญมากขึ้นในการยืนหยัดอยู่ที่นี่

 
วงแลกเปลี่ยน

นางปราณี แท่นมาก ปัจจุบันอายุ 28 ปีพูดถึงชุมชนแห่งนี้ว่า "เธอเป็นคนแรกที่เกิดที่นี่ รักที่นี่และผูกพันกับที่นี่มาก  สมัยเด็กตอนไปโรงเรียนต้องเดินออกจากหมู่บ้านไปไกลมาก (ลากเสียงยาว) เมื่อไปถึงปากทางก็ต้องโบกรถต่อไปอีกเพื่อขออาศัยไปลงที่โรงเรียน วันไหนโบกรถได้ช้าก็ไปโรงเรียนสาย ทำเช่นนี้จนเรียนจบม.3 ต่อมาพ่อและแม่ไม่มีเงินส่งเสียให้เรียนต่อ จึงหยุดเรียนมาระยะหนึ่ง  และเมื่อเก็บเงินได้จึงเรียนต่อศึกษาผู้ใหญ่จนจบม.6 เธอยังบอกอีกว่าเคยเข้าไปทำงานในเมือง แต่ก็อยู่ไม่ได้เพราะความวุ่นวาย จึงลาออกมาทำเกษตรที่บ้าน ดังนั้นพืชทุกตัว สมุนไพรทุกชนิดเธอรู้จักดี  และปัจจุบันเธอทำหน้าที่เป็นเลขานุการของกลุ่ม...... "


ศาลาประชุมหมู่บ้านทับเขือ 

ถึงวันนี้ชาวบ้านทับเขือ-ปลักหมูยังคงยืนหยัดคุ้มครองพื้นที่ทำกินและชุมชนของพวกเขาต่อไปตราบนานเท่านานจนกว่าชีวิตจะหาไม่  รวมทั้งพิสูจน์ให้สังคมได้รับรู้ว่า การปฏิรูปที่ดินหรือการจัดการที่ดินโดยองค์กรชุมชน ย่อมมีความยั่งยืนหรือเป็นทางออกได้มากกว่าการใช้นโยบายหรือกฎหมายป่าไม้ที่เป็นอยู่มาขับไล่ชาวบ้าน       

บล็อกของ คนไร้ที่ดิน

คนไร้ที่ดิน
ศยามล ไกยูรวงศ์ โครงการเสริมสร้างจิตสำนึกนิเวศวิทยา    การที่รัฐบาลอภิสิทธิ์เปิดประเด็นการปฏิรูปที่ดิน แจกสปก. นับว่าโดนใจประชาชนที่เฝ้ารอคอย สปก. 4-01 และหวังว่าวันหนึ่งจะมีการออกเป็นโฉนดที่ดินตามแรงโฆษณาของเจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมือง ปัญหาการไม่มี สปก. 4-01 ในพื้นที่ปฏิรูปที่ดินมีจำนวนมาก มีโครงการปฏิรูปที่ดิน แต่ยังไม่มีการปฏิรูปที่ดิน และยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนของความซ้ำซ้อนระหว่างแนวเขตของเขตปฏิรูปที่ดินกับที่ดินของรัฐประเภทอื่น เช่น พื้นที่ป่าตามกฎหมาย ที่ราชพัสดุ ที่สาธารณประโยชน์…
คนไร้ที่ดิน
โดย... สมจิต คงทน กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน  ก่อนจะมาเป็นนารวม ชาวบ้านเขวาโคก-เขวาทุ่ง ต.สระบัว อ.ปทุมรัตน์ จ.ร้อยเอ็ด ได้รวมตัวกันเพื่อดูแลและฟื้นฟูสภาพป่าสาธารณะของชุมชนที่อยู่คู่มากับหมู่บ้าน ซึ่งมีขนาดพื้นที่ประมาณ 300 ไร่ ไว้สำหรับหาอยู่หากิน เก็บของป่า เก็บเห็ด เก็บฟืน เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตแต่เมื่อปี 2538 มีกลุ่มทุนเอกชนจากนอกพื้นที่ทั้งหมด 8 ราย มาบุกรุก แผ้วถางป่าธรรมชาติดอนหนองโมง-หนองกลางของหมู่บ้าน เป็นเหตุให้ชาวบ้านที่นี่รวมกลุ่มกันต่อสู้เพื่อรักษาที่ดินผืนนี้ไว้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน
คนไร้ที่ดิน
กองเลขาฯเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย ความขัดแย้งและการต่อสู้ของชนชั้นปกครองเป็นไปอย่างดุเดือดและยืดเยื้อ มากกว่า 3 ปี จนยกระดับขึ้นเป็นความขัดแย้งหลักของสังคมไทยในขณะนี้ ขั้วความขัดแย้งคือ กลุ่มทุนอนุรักษ์นิยมภายใต้อิทธิพลศักดินา ส่วนอีกฝ่ายคือ กลุ่มทุนเสรีนิยมใหม่ ความขัดแย้งครั้งนี้ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้โดยง่าย เพราะเป็นการทำศึกวัดดุลกำลัง เพื่อนำไปสู่การจัดปรับความสัมพันธ์ทางอำนาจครั้งใหม่ ทั้งอำนาจในทางการเมือง อำนาจในการควบคุมระบบเศรษฐกิจและฐานทรัพยากรของสังคม ศึกช่วงชิงการยึดกุมความได้เปรียบในโครงสร้างความสัมพันธ์ทางอำนาจละการผลิตครั้งนี้ “ชนชั้นผู้ชม”…
คนไร้ที่ดิน
เมธี สิงห์สู่ถ้ำ กลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน  เมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา เครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ ศูนย์กฎหมายและสิทธิชุมชนพื้นที่อันดามัน และเครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชายฝั่นอันดามัน ได้จัดเวทีสัมมนาเรื่อง “ทางออกกรณียึดที่ดินชุมชนสัมปทานป่า-เลให้นายทุน” ที่ศูนย์การเรียนรู้ควนปริง ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง มีผู้เข้าร่วมเวทีกว่า 150 คน ดร.เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ อาจารย์จากศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาที่ดินของหน่วยงานรัฐไว้อย่างน่าสนใจ…
คนไร้ที่ดิน
ศลิษา ทองสังข์ เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ปัญหาเรื่องที่ดินเป็นปัญหาทางการเมืองและโครงสร้าง ปัญหาที่ดินไม่ได้จำกัดเฉพาะชาวนา หรือคนสลัม แม้แต่คนเมือง คนชั้นกลางก็ประสบปัญหาที่ดินอยู่อาศัย การใช้ประเด็นเรื่องการผูกขาดที่ดิน นักการเมือง กลุ่มผู้มีอิทธิพล ทุนข้ามชาติ และการสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคมโดยรวมและผลกระทบที่เกิดขึ้น จะทำให้สามารถเชื่อมโยงกับสังคมโดยรวมเพื่อสร้างแรงผลักดันการกระจายการถือครองที่ดินได้ ที่ผ่านมามีการผลักดันให้เกิดการแก้ไขมาตรการทางภาษีที่ดิน ตัวอย่างเช่น ร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้รับความเห็นชอบจาก ครม. ตั้งแต่ปี 2541 เป็นเวลา 10 ปี เต็ม…
คนไร้ที่ดิน
นนท์ นรัญกร   ประเทศไทยมีพื้นที่ป่า 147 ล้านไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ซึ่งได้แก่ พื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ พื้นที่ต้นน้ำชั้น 1 A และ ป่าสงวนแห่งชาติโซน C ประมาณ 80 ล้านไร่ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การบริหารจัดการพื้นที่ป่าของของกรมอุทยานแห่งชาติ พันธุ์พืชและสัตว์ป่า มีบทเรียนหลายประการ ที่ไม่ได้ถูกนำมาถกเถียงในสังคมไทยเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาและการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานให้ดีขึ้น ในขณะที่กำลังจะสร้างปัญหาใหม่ตามมา ดังที่เป็นข่าวเรื่องความพยายามใน การเซ้งพื้นที่อุทยานฯ ให้กับภาคเอกชนเช่าทำธุรกิจ บทเรียนประการแรก…
คนไร้ที่ดิน
พงษ์ทิพย์  สำราญจิตต์สังคมไทย  เป็นสังคมที่เกษตรกรและคนจนไร้ที่ดิน แทบจะไม่มีที่ยืนหรือสามารถบอกเล่าสถานะของตนเองต่อสังคมได้ โครงสร้างสังคมไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะโครงสร้างด้านเศรษฐกิจ การผลิตและการตลาด  ได้ถูกผูกขาดและกำกับควบคุมโดยคนกลุ่มเล็ก บริษัทธุรกิจเอกชนที่มีเงินลงทุนมหาศาล ในสนามเศรษฐกิจที่ถูกผูกขาดไว้แล้วเช่นนี้  แน่นอนว่าเกษตรกรรายย่อยย่อมมิอาจแข่งขันได้ นี่เป็นที่มาของสภาพการณ์ในชนบทสังคมไทยที่เกษตรกรรายย่อยกำลังกลายเป็นแรงงานรับจ้างและคนจนไร้ที่ดินมากขึ้นทุกขณะ
คนไร้ที่ดิน
                                                                                                   …
คนไร้ที่ดิน
  สมจิต  คงทนกลุ่มปฏิบัติงานท้องถิ่นไร้พรมแดน (โลโคลแอค)เมื่อชาวบ้านถูกฟ้องคดี"ก่อนถูกฟ้องคดีเขาเป็นคนขยัน พอถูกจับและยึดที่ดินไป  ซึ่งเป็นที่ดินที่เขาสองคนผัวเมียได้อยู่อาศัยทำกินกันมายาวนาน เขากลายเป็นคนคิดมาก ควบคุมสติตัวเองไม่ได้  ทุบตีเมียตัวเอง และเคยคิดฆ่าตัวตาย จนกลายเป็นปัญหาครอบครัว สุดท้ายก็ต้องแยกทางกัน  ส่วนลูก 2 คนก็แบ่งกันไปคนละคน"  นางเหิม เพชรน้อย ชาวบ้านตำบลบ้านนา จังหวัดพัทลุง เล่าถึงชะตากรรมชีวิตของเพื่อนบ้านครอบครัวหนึ่งที่ถูกฟ้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า หรือ…