Skip to main content

ในอดีต การเกิดขึ้นของสังคม มักจะถูกจำกัดด้วยเส้นขอบเขตของเวลาและสถานที่ การเป็นส่วนหนึ่งในสังคม เกิดจากการมีส่วนร่วมอยู่ในเวลาและสถานที่เดียวกัน เช่น การอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน การไปโรงเรียนหรือสถานศึกษาเดียวกัน การทำงานในบริษัทหรือสถานที่ทำงานเดียวกัน หรือ การอยู่ในกลุ่มทำกิจกรรมเดียวกัน เป็นต้น

แต่ด้วยความก้าวหน้าของ ICT และการขยายตัวของอินเตอร์เนต ทำให้ในปัจจุบัน การมีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ของเราแต่ละคน ไม่ถูกจำกัดโดยสองข้อจำกัดข้างต้น อีกต่อไป และทำให้ในปัจจุบันนั้น เราแต่ละคน มีและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ที่ถูกสร้างขึ้นบนอินเตอร์เนต เพิ่มมากขึ้นๆทุกที

ระบบการแบ่งปันข่าวสารเฉพาะกลุ่ม (newsgroups) และระบบกระดานสนทนา (web board) อาจเรียกได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เราแต่ละคนมีและเป็นส่วนหนึ่ง ในสังคมบนอินเตอร์เนต เนื่องจากทั้งสองระบบ ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนหมู่มากได้ ผ่านการรับรู้ข่าวสารเดียวกัน และการสนทนาในหัวข้อเดียวกัน


ปัจจุบัน การเกิดขึ้นของระบบเครือข่ายสังคม (social network) เช่น Hi5 Facebook และ MySpace และระบบโลกเสมือน เช่น Second Life หรือกระทั้งระบบเกมส์ออนไลน์ เช่น World of Warcraft คือก้าวสำคัญ ที่ทำให้เกิดการขยายตัวในวงกว้าง ของการมีและเป็นส่วนหนึ่งในสังคมบนอินเตอร์เนต ของเราแต่ละคน


เนื่องจากทั้งสามระบบข้างต้น ทำให้คนหมู่มาก สามารถมีประสบการณ์ร่วมกัน ผ่านช่องทางการสื่อสาร ที่อนุญาตให้โต้ตอบกันได้ แถบจะในทันที (almost real time two ways communication) อีกทั้งยังเป็นสื่อที่มีความหลากหลาย (rich media) มากกว่าในอดีต ที่เป็นเพียงแค่ช่องทางการสื่อสารทางเดียวและตัวหนังสือ


การเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ข้างต้นนี้ ส่งผลให้เราทุกคน ต้องเผชิญกับการใช้ชีวิต ทั้งในสังคมในโลกเสมือนบนอินเตอร์เนต และในสังคมในโลกที่เรามีชีวิตและอาศัยอยู่จริง มากขึ้นๆทุกที


ถึงแม้ว่า พื้นฐานการใช้ชีวิตในสังคมทั้งสองแบบ และบนโลกสองใบที่แตกต่างกัน อาจมีบางมุมที่คล้ายกัน เช่นในมุมที่ว่า สังคมถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความไว้ใจและเชื่อใจ ผ่านการมีระบบความคิด ความเชื่อ ค่านิยม และการมีอัตลักษณ์ร่วมกัน หรือในมุมที่ว่า ทุกชีวิตต้องรับผิดชอบต่อทุกการตัดสินใจ ทุกการกระทำ และต่อความปลอดภัยของตัวเอง


กระนั้นก็ดี ยังมีความแตกต่างในอีกหลายๆมุม ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตในสังคมทั้งสองแบบ และบนโลกสองใบที่แตกต่างกันนี้ ต้องการแนวคิดในการดำเนินชีวิต และส่วนผสมของชีวิต ที่แตกต่าง


ในขณะที่การใช้ชีวิตอยู่ในสังคม บนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ เด็กและวัยรุ่น สามารถได้รับคำแนะนำสั่งสอน ได้รับการดูแลสอดส่อง และได้มองเห็นตัวอย่างจากสมาชิกในครอบครัว เพื่อการดำเนินชีวิตอย่างปลอดภัยและมีความสุข

แต่การใช้ชีวิตอยู่ในสังคมในโลกบนอินเตอร์เนต เด็กและวัยรุ่น ขาดการให้ความรู้ ความเข้าใจ ขาดคู่คิดในการตัดสินใจ และขาดตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิต จากคนที่รักและห่วงใยเค้า ทำให้ประชากรในกลุ่มนี้ มีความเสี่ยงสูงจากการใช้ชีวิตบนโลกอินเตอร์เนต จากการมีระบบความคิด ความเชื่อ ค่านิยม และการมีอัตลักษณ์ เฉพาะในกลุ่มของตน ซึ่งทำให้เกิดความแปลกแยก จากสังคมบนโลก ที่พวกเค้าเหล่านี้ ต้องอาศัยอยู่จริง


นั่นหมายถึงว่า เมื่อเด็กและวัยรุ่น จำเป็นต้องมี ใช้ชีวิต และต้องเดินทางไปมาระหว่าง สังคมสองแบบ และบนโลกสองใบที่แตกต่างกัน พวกเค้าเหล่านี้อาจไม่สามารถบริหารจัดการตัวตนของตัวเอง ได้อย่างเหมาะสม

ผลกระทบของปรากฏการณ์นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับเด็กและเยาวชน เพียงเท่านั้น ผู้ที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ทุกคน ก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน


การที่โลกอินเตอร์เนต เปิดโอกาสให้เราทุกคน สามารถทำอะไรได้ค่อนข้างอิสระ และไม่ต้องรับผิดชอบกับการกระทำของตัวเองมากนัก อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก คุณสมบัติในการมีส่วนร่วม ได้โดยไม่จำเป็นต้องแสดงตน

อีกทั้งการที่สังคมบนอินเตอร์เนตส่วนใหญ่ เปิดโอกาสให้คนเรามีส่วนร่วมได้อย่างฉาบฉวย เนื่องจากไร้ซึ่งส่วนผสมของชีวิต เฉกเช่นในสังคมบนโลกที่เราอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็น การทำกิจกรรมทางสังคมร่วมกัน ซึ่งทำให้เกิดการสัมผัสและเกิดมีปฏิสัมพันธ์ รวมถึงการได้รู้จักและรับรู้ ถึงตัวตน ครอบครัว และมุมอื่นๆในชีวิต ของสมาชิกในสังคม

ด้วยปัจจัยตัวอย่างข้างต้นนี้ แน่นอนว่า ย่อมส่งผลให้คนส่วนใหญ่ ติดนิสัยขาดความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองทำ ขาดความยั้งคิดก่อนการกระทำใดๆมากขึ้น รวมถึงการใช้ชีวิตเพื่อผลประโยชน์ของตนเองมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า หากนำมาใช้กับสังคมบนโลกที่เราอาศัยอยู่ ย่อมนำมาซึ่งปัญหาทางสังคมมากมาย


ตัวอย่างที่ชัดเจน ของปรากฏการณ์ต่างๆข้างต้นนี้ คือภาพของคนหนึ่งคนที่ใช้ชีวิต และเดินทางไปมา ระหว่างสองประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกิดความสับสน และปัญหาในการใช้ชีวิต เนื่องจากความแตกต่างทางวัฒนธรรม ค่านิยม และระบบความคิด ของทั้งสองประเทศ หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริงนั้น รุนแรงกว่า เนื่องจากปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนเพียงหนึ่งคน หากแต่เกิดขึ้นกับคนในวงกว้างมากขึ้นทุกที และที่สำคัญ การเดินทางไปมาระหว่างสองโลกหรือสองสังคมนั้น เกิดขึ้นในทุกวันของชีวิต


สิ่งต่างๆเหล่านี้เอง ที่ทำให้นับวัน เป็นการยากที่กลไกทางสังคมเดิม ที่เรามีอยู่ จะสามารถเอื้อประโยชน์ ให้สังคมบนโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ เข้าไปรับมือและจัดการ กับปรากฏการณ์ที่ไม่คุ้นเคย และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เฉกเช่นผลกระทบจากสังคมในโลกบนอินเตอร์เนต ได้อย่างเท่าทันและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลมาจาก กลไกทางสังคมที่เรามีอยู่นั้น ถูกออกแบบมา ให้รับมือกับปรากฏการณ์ ในสังคมที่เราใช้ชีวิตและอาศัยอยู่ ในโลกใบที่เราคุ้นเคย ไม่ใช่รับมือกับสังคม ที่สมาชิกใช้ชีวิตอยู่ในสองโลก หรือไม่ใช่รับมือกับโลกใบเดิม ที่มนุษย์เป็นสมาชิกของสองสังคม


สิ่งที่พอจะลดทอนผลกระทบข้างต้นได้นั้น คือการเร่งทำให้ทุกคนตระหนักถึง ปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้ รวมทั้งพัฒนากลไกทางสังคม ให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

 

 

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
Digital Divide คือ คำในภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกสภาวะ ที่ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้ช่องว่างและความแตกต่างในสังคมเกิดขึ้นและขยายตัวในขณะที่ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับ ICT ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยเห็นได้จากแนวนโยบายของรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลก ที่มุ่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทาง ICT เพื่อให้บริการต่างๆของภาครัฐ ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า“รัฐบาลอิเลคทรอนิค” หรือ e-government ทั่วโลกก็กำลังเผชิญหน้ากับการขยายตัวของปัญหา ช่องว่างและความแตกต่างในสังคม ไปพร้อมกัน
SenseMaker
ปัจจุบันความก้าวหน้าทาง ICT อนุญาตให้ประชาชนทุกคน สามารถแสดงออกทางความคิดเห็น ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านความหลากหลายของช่องทางการติดต่อสื่อสาร และความอุดมสมบูรณ์ของสื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ICT ยังอนุญาตให้เราสามารถ จัดการกับข้อมูลและเนื้อหาของการแสดงออกทางความคิด เพื่อใช้สำหรับการเข้าถึงในวงกว้างโดยผู้คนอื่นต่อไปได้อีกด้วยด้วยความสามารถของ ICT ข้างต้น ทำให้ประชาชนเริ่มมองเห็น และตระหนักในศักยภาพ ของการนำICT มาใช้เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาที่แต่ละบุคคลประสบ มองหาผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน และมองหาผู้อื่นที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ เพื่อร่วมคิด แสดงความเห็น ให้คำปรึกษา และช่วยกันหาทางบรรเทาหรือแก้ไขปัญหานั้นๆ…
SenseMaker
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของโครงการจัดทำ แผนแม่บททางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารฉบับที่ 2 ของประเทศไทย เพื่อประกาศใช้ระหว่าง พ.ศ. 2552 – 2556 ยังอยู่ในระหว่างการเร่งจัดทำร่าง เพื่อประกาศใช้ให้ทันการเริ่มต้นใช้งานในปีหน้าข้าพเจ้ามีโอกาสได้อ่านแผนแม่บทฉบับร่างดังกล่าว ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เตรียมเพื่อใช้ประกอบการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ระหว่างวันที่ 4-13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะเป็นฉบับล่าสุด ที่กระทรวงฯเปิดเผยและประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะ (ท่านผู้อ่านสามารถอ่านข้อมูลของโครงการจัดทำแผ่นแม่บทนี้ เพิ่มเติม รวมทั้ง download เอกสารประกอบต่างๆได้ที่ http…
SenseMaker
หากท่านผู้อ่านได้อ่านบทความก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความเรื่อง “การเข้าถึงเทคโนโลยี ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความแตกต่างทางสังคม และสังคมในแนวขนาน” หรือเรื่อง “เว็บยุค2.0 สื่อพลเมือง และการท้าทายกระแสหลัก” และเรื่อง “ICT ตัวการแห่งการเปลี่ยนแปลง และผลลัพท์ทางสังคมที่ย้อนแย้ง” ข้าพเจ้าเชื่อว่าบทความเหล่านี้ จะทำให้ทุกท่านที่อ่านเริ่มตระหนัก ข้อเท็จจริงที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นของความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ว่า สังคมของเราทุกวันนี้ มีความหลากหลายทางระบบความคิด ความเชื่อ และมีความแตกต่างทางด้านค่านิยมมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมข้างต้น แน่นอนว่าไม่ได้ถูกผลักดัน ด้วยความก้าวหน้าทางด้าน ICT…
SenseMaker
“คนไทยลืมง่าย” คือคำนิยามหนึ่งที่อธิบายลักษณะความคิดและนิสัยของคนไทย ได้เป็นอย่างดี คนไทยเรามักเลือกที่จะลืมและให้อภัย กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะสร้างความเดือดร้อนใหญ่หรือเล็กเพียงใดหลายคนแสดงความเห็นว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเรามีอุปนิสัยเช่นนี้ เนื่องจากคนไทยเราส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลทางด้านความคิดจากพุทธศาสนา ซึ่งปลูกฝังให้คนเรารู้จักให้อภัยกันและกัน ทำให้คนในสังคมของเรา อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและเกื้อกูลกัน ซึ่งนี้คือสิ่งที่หลายคนเห็นว่า “การลืมง่าย” ก่อให้เกิดผลดีกับบ้านเมืองของเราอย่างไรก็ดีธรรมชาติของเหรียญย่อมต้องมีสองด้าน...…
SenseMaker
เป็นความตั้งใจของข้าพเจ้า ที่ปล่อยให้บทความที่แล้ว ยึดพื้นที่คอลัมน์ยาวกว่าปกติสักหน่อย เพื่อดึงความสนใจจากผู้อ่าน และอยากให้ทุกท่านตระหนักว่า แนวโน้มการ Outsourcing ขององค์กรต่างๆ กำลังส่งผลกระทบสำคัญ กับแนวทางการดำเนินชีวิตของทุกคน บทความวันนี้ ให้ความสนใจกับปัญหาความล้มเหลวของโครงการด้าน ICT ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่องค์กรต่างๆกำลังเผชิญหน้าอยู่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งค้นหาส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ ในการดำเนินโครงการด้าน ICT
SenseMaker
ต้องขอโทษท่านผู้อ่าน ที่ติดตามคอลัมน์กรองกระแส ICT ที่บทความสำหรับอาทิตย์นี้ต้องล่าช้าสักหน่อย เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ใคร่สบายเล็กน้อย ในช่วงวันเวลาที่จัดไว้สำหรับเขียนบทความในบทความที่แล้ว ข้าพเจ้าพยายามชี้ให้ทุกท่านเห็น ปรากฏการณ์ที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นที่สำคัญ ซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งในบริบทของผลกระทบจากภายนอกองค์กร ในรูปแบบของ การทำให้สภาพแวดล้อมในการแข่งขันเปลี่ยนแปลง และในบริบทของผลกระทบที่เกิดภายในองค์กร ในลักษณะของการทำให้ รูปแบบการทำงานและแนวการบริหารทรัพยากรองค์กร ต้องเปลี่ยนไปบทความในวันนี้…
SenseMaker
ICT ตัวแปรต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ที่ไม่ควรถูกมองข้าม ก่อนเข้าสู่บทความอาทิตย์นี้ ข้าพเจ้าขอประณามการกระทำ ของผู้ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากข้าพเจ้าถือว่า ใครก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง ไม่มีความรักชาติอย่างจริงจัง และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม หากทุกคน เล็งเห็นความสงบสุขและประโยชน์ ของประเทศเป็นสำคัญ จะต้องใช้วิธีประนีประนอม เพื่อหาหนทางแก้ปัญหา ความขัดแย้งทางความคิด ร่วมกัน มากกว่าการยึดเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ มองความคิดของอีกฝ่ายว่าไม่ถูกต้อง และมุ่งล้มล้างฝ่ายตรงข้าม…
SenseMaker
หลังจากที่ได้ขีดๆเขียนๆบทความ ในด้านที่ข้าพเจ้าเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมไทย และอยู่ในความสนใจของตัวเอง เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เป็นเวลาอันสมควร ที่ควรจะทำความเข้าใจ กับผู้ให้ความกรุณาแวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งขาประจำและขาจร ซึ่งมีอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงที่มาของคอลัมน์ “กรองกระแส ICT”จุดเริ่มต้นของคอลัมน์นี้ เกิดจากการที่ข้าพเจ้ามีความสนใจ และมีโอกาสศึกษาหาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ Information Technology (IT) และ ทางด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ หรือ Information System (IS) ประกอบกับประสบการณ์ในการทำงาน ในอุตสหกรรมโทรคมนาคม จนถือได้ว่า ข้าพเจ้าโชคดีที่มีความคุ้นเคยกับ ICT…
SenseMaker
บทความในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การได้รับทราบสองข่าว ซึ่งในความเห็นของข้าพเจ้า เป็นข่าวที่ไม่ได้อยู่ในกระแสความสนใจ ของคนไทยทั่วไปแต่อย่างไร แต่เป็นข่าวที่ข้าพเจ้า อยากเรียกร้องให้ทุกคน หันมาตระหนักถึงความน่ากลัว ของการถูกคุกคามโดย "Identity thief"Identity thief คือ กลุ่มคนที่มุ่งขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ใช้แสดงตัวตน ของบุคคลต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ใช้ข้อมูลดังกล่าวปลอมแปลงตนเป็นบุคคลผู้นั้น เพื่อหาประโยชน์อื่นๆต่อไปข่าวแรกที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกวิ่งราวกระเป๋าสตางค์ ภายหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งข้าพเจ้าเจ้าจำได้ไม่แน่นอนว่านานเท่าไหร่…
SenseMaker
“คู่แข่งกำลังลงทุนในเทคโนโลยี... เราจะรอช้าอยู่ไม่ได้ ต้องรีบดำเนินการผลักดันโครงการแบบเดียวกัน ให้เกิดขึ้นในทันที เพื่อตามให้ทัน และไม่ให้เราสูญเสียโอกาสทางการแข่งขัน"“เทคโนโลยี... กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก สร้างประโยชน์มากมายให้กับ ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือองค์กรนั้นองค์กรนี้ ดังนั้นเราจึงควรลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างเร่งด่วน”เหตุผลในทำนองข้างต้น เป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าได้ยินอยู่เป็นประจำ จากผู้มีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบาย ขององค์กรระดับต่างๆในประเทศไทย เพื่อนำเทคโนโลยีอันทันสมัย เข้ามาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางด้าน ICT
SenseMaker
เช้ามา...เปิดคอม เปิดเนต เช็คตารางนัด เช็คเมล ตอบเมล ล็อคอินเข้า MSN เอาไว้คุยกับเพื่อน หาข้อมูลจาก Google และ Wikipedia เข้าไปดูว่าเพื่อนๆทำอะไรกันบ้าง พร้อมกับอัพเดตของมูลตัวเองบน MySpace, Hi5 หรือ Facebook เข้าไปอ่านข่าว บทความ หรือกระทู้ จากแหล่งข้อมูลเฉพาะด้าน จาก Blog หรือสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่สนใจ เข้าไปดูวิดีโอแปลกๆ หรืออัพโหลดวิดีโอฝีมือตนเองบน Youtube เข้าไปอัพเดตรูปตัวเองหรือหารูปสวยๆบน Flickr และโทรหาใครหลายคน ไม่ว่าอยู่มุมไหนของโลกผ่าน Skypeชีวิตที่ดำเนินไปข้างต้น คงมีส่วนคล้ายกับชีวิตใครหลายคนในปัจจุบัน ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 30…