Skip to main content

วันนี้อยากชวนสนทนาถึงศัพท์คำว่า “การเข้าถึงเทคโนโลยี” ซึ่งในทัศนะส่วนตัวคือสภาวะที่บุคคล องค์กร หรือประเทศหนึ่งสามารถได้มาซึ่งความสามารถในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงอยู่และจำเป็นต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เกี่ยวข้อง

ปัจจุบันแนวทางการพัฒนาของเศรษฐกิจโลก เป็นไปในลักษณะที่เทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการการผลิต และเทคโนโลยีอื่นๆอีกมากมายเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีในทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจโลก ย่อมมีความสำคัญกับทุกประเทศอย่างที่สุด

หนึ่งเทคโนโลยีซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และเป็นด้านที่ SenseMaker ให้ความสนใจวิพากษ์ถึงอย่างรอบด้านบนเวทีความคิดแห่งนี้คือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology; ICT) ซึ่งต่อไปจะขอใช้คำว่า ICT เพื่อความกระชับ

ICT  เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่เปลี่ยนแปลงลักษณะของเศรษฐกิจโลก ในระยะยี่สิบปีหลังมานี้ ทั้งในแง่ของตัวตลาดเองที่เคลื่อนที่เข้าสู่ตลาดในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเกิดจากความก้าวหน้าของ ICT เช่นตลาดธุรกรรมออนไลน์ เป็นต้น รวมทั้งในแง่ของตัวระบบข้อมูลข่าวสารด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตลาด ด้วยเหตุนี้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้ จึงสามารถถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่ง ที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความแตกต่างทางสังคม

ในด้านความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การเข้าถึงตลาดรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเกิดจากความก้าวหน้าของ ICT เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่า ผู้ที่เข้าถึงตลาดใหม่ๆได้ ย่อมเป็นผู้ที่ได้เปรียบในการขยายตลาด และเก็บเกี่ยวความเติบโตทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นและก่อนหน้าผู้ที่เข้าถึงล้าหลังกว่า

อีกหนึ่งตัวอย่างที่สำคัญคือ ผู้ที่สามารถเข้าถึงระบบข้อมูลข่าวสารและตัวข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับตลาดได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และสมบูรณ์กว่า ย่อมเป็นผู้ที่มีโอกาสที่จะตัดสินใจดำเนินการด้านต่างๆที่จำเป็นได้อย่างรัดกุม ถูกต้อง และรวดเร็วกว่า ซึ่งจุดนี้ถือได้ว่าเป็นความได้เปรียบในแง่ของการใช้โอกาสทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการประยุกต์ใช้ ICT จะมีผลต่อเศรษฐกิจแล้ว ตัวอุตสาหกรรม ICT  เองในปัจจุบัน ก็ถือได้ว่ามีผลโดยตรงต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจของโลก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมซึ่งสร้างรายได้อย่างมหาศาล และเป็นหนึ่งในกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของหลายๆประเทศ

ในบริบทแห่งความแตกต่างทางสังคม ICT ถือเป็นตัวนำชั้นดี ที่อนุญาตให้สมาชิกในหน่วยย่อยต่างๆของแต่ละสังคม เรียนรู้และรับเอาแนวความคิดและวัฒนธรรมจากสังคมอื่นๆได้อย่างไร้พรมแดน ซึ่งในที่สุดก่อให้เกิดมีความหลากหลายทางด้านพื้นฐานความคิด และความแตกต่างในเรื่องของ คติ ความเชื่อ และค่านิยมทางสังคม

นอกจาก ICT เป็นตัวนำชั้นดีแล้ว ICT  ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดีอีกด้วย คือทำให้การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นไปด้วยความรวดเร็วและอย่างความรุนแรง โดยในบริบทนี้ ICT ถูกมองว่าเป็นสื่อสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในปัจจุบัน คือทิศทางการใช้เว็บเทคโนโลยียุค 2.0 เช่น Youtube, Weblog (Blog), และ RSS (จะขอสนทนาถึงในโอกาสต่อไป) สร้างสื่อพลเมือง (เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่จะขอสนทนาถึงในอนาคต) ซึ่งอนุญาติให้สมาชิกแต่ละบุคคลในสังคมสามารถทำตัวเป็นสื่อ และสร้างช่องทางการสื่อสารสองทางระหว่างกันได้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสื่อทางเลือกใหม่ ที่ทำให้ผู้ที่มีความเข้าใจ สามารถใช้เทคโนโยโลดังกล่าวนี้ชี้นำทางความคิด และสร้างกระแสต่างๆได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย หากแต่มีผลกระทบกับสังคมในระดับที่รุนแรงและเป็นวงกว้าง

ลึกลงไปในเหตุและปัจจัยของความแตกต่างทางสังคมที่เกิดขึ้นข้างต้น อันที่จริงนั้น ICT ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ที่ SenseMaker ขอเรียกว่า “สังคมในแนวขนาน”

สังคมในแนวขนาน คือการที่สภาพแวดล้อมทางความคิด ของแต่ละปัจเจกบุคคลมีความแตกต่าง ทำให้เกิดการมองเห็นโลกและเข้าใจการการดำเนินไปของสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ในมุมมองที่แตกต่างกันไปในแต่ละสังคม

สังคมในแนวขนานเกิดจากการที่แต่ละปัจเจกบุคคล มีภาวะการรับรู้และกรอบความคิดที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัยเช่น การมีพื้นฐานการศึกษาที่แตกต่างกัน การมาจากสังคมที่แตกต่างกัน การได้รับรู้ข่าวสารที่แตกต่างกัน และความเชื่อหรือค่านิยมส่วนบุคคล ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้สมาชิกแต่ละคนภายในสังคมเดียวกัน สามารถมองเห็นหรือเข้าใจเหตุการณ์อย่างเดียวกัน ได้แตกต่างกันไป

 

อันที่จริงแล้วปรากฏการณ์สังคมในแนวขนาน เกิดขึ้นและมีอยู่ควบคู่กับการมีอยู่ของมนุษย์และสังคมมาอย่างช้านาน หากแต่ในปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าของ ICT ทำให้ปรากฏการณ์ดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ถี่ หลากหลาย รวดเร็ว และในวงกว้างมากขึ้น

ปรากฏการณ์สังคมในแนวขนานไม่ใช่สิ่งไกลตัว หากมองในระดับสังคมที่เรียกว่าครอบครัว หมายถึงการที่แต่ละสมาชิกอยู่ในสังคมในแนวขนานที่ต่างกัน หมายความว่าสามีอาจเข้าไม่ถึงสังคมในแนวขนานของภรรยา บิดามารดาไม่อาจจะรู้ได้ว่าสังคมในแนวขนานของบุตรธิดาเป็นอย่างไร และจะรับรู้ได้อย่างไรว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างข้างในนั้น ซึ่งในท้ายที่สุดจะส่งผลให้ครอบครัวมีหัวข้อสนทนาร่วมกันลดน้อยลง ไม่สามารถให้คำแนะนำให้แก่กัน และไม่สามารถเข้าใจกันและกันได้

เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน สามารถเกิดขึ้นได้กับสังคมในระดับที่ใหญ่ขึ้น เช่นในระดับชาติ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นย่อมมีวงกว้างและรุนแรงมากขึ้น

ดังนั้นแต่ละสังคมควรที่จะมองผลกระทบจาก ICT อย่างรอบด้าน เพื่อการมีวิสัยทัศน์และแนวนโยบายที่คลอบคลุม เพื่อพลักดันให้สังคมของตนสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์ รวมทั้งเข้าใจและป้องกันผลกระทบที่เกิดจากการประยุกต์ใช้ ICT ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

โดยสรุปแล้ว ทุกระดับสังคม ควรที่กระตือรือร้นให้สังคมของตนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะส่งผลให้สังคมของตนสามารถลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่มี เมื่อเปรียบเทียบกับกระแสโลกาภิวัฒน์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันสังคมนั้นๆควรที่จะตระหนักถึง ผลกระทบซึ่งเทคโนโลยี ICT ทำให้เกิดความแตกต่างทางสังคม และยังส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์สังคมในแนวขนานได้ถี่ หลากหลาย รวดเร็ว และในวงกว้างมากขึ้น

อย่างไรก็ดีการที่สังคมหนึ่งๆ จะสามารถรับมือกับทั้งประโยชน์ และผลกระทบที่เกิดจากการประยุกต์ใช้ ICT ได้อย่างรอบด้านและรอบคอบนั้น คงไม่สามารถโยนหน้าที่ความรับผิดชอบ ให้กับใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่ผู้นำหรือผู้ที่ต้องรับผิดชอบในระดับนโยบาย จะต้องมีวิสัยทัศน์กว้างไกล อีกทั้งยังต้องสามารถแปลงวิสัยทัศน์ ให้เกิดเป็นผลลัพท์ที่เป็นรูปธรรมได้

พร้อมกันนั้นผู้นำทางความคิดในทุกระดับของสังคม ควรที่จะรับทราบและเข้าใจถึงแนวนโยบายดังกล่าว ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นกลจักรสำคัญที่ส่งผลให้สังคมหนึ่งๆ สามารถปรับเปลี่ยนและประสบความสำเร็จตามแนวนโยบายนั้นๆได้อย่างรวดเร็ว

กระนั้นก็ดี สมาชิกในสังคมแต่ละคนเอง ก็ไม่ควรรอหรือฝากความหวังให้ผู้นำทางสังคมเป็นผู้ชี้นำแนวทาง การรับมือการเปลี่ยนแปลงของ ICT หากแต่ตนเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งแห่งตน ในยุคที่ ICTมีอิทธิพลต่อทุกสังคมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขอให้ทุกท่านรับมือกับการพัฒนาทาง ICT อย่างรอบคอบและรอบด้าน

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
Digital Divide คือ คำในภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกสภาวะ ที่ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้ช่องว่างและความแตกต่างในสังคมเกิดขึ้นและขยายตัวในขณะที่ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับ ICT ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยเห็นได้จากแนวนโยบายของรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลก ที่มุ่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทาง ICT เพื่อให้บริการต่างๆของภาครัฐ ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า“รัฐบาลอิเลคทรอนิค” หรือ e-government ทั่วโลกก็กำลังเผชิญหน้ากับการขยายตัวของปัญหา ช่องว่างและความแตกต่างในสังคม ไปพร้อมกัน
SenseMaker
ปัจจุบันความก้าวหน้าทาง ICT อนุญาตให้ประชาชนทุกคน สามารถแสดงออกทางความคิดเห็น ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านความหลากหลายของช่องทางการติดต่อสื่อสาร และความอุดมสมบูรณ์ของสื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ICT ยังอนุญาตให้เราสามารถ จัดการกับข้อมูลและเนื้อหาของการแสดงออกทางความคิด เพื่อใช้สำหรับการเข้าถึงในวงกว้างโดยผู้คนอื่นต่อไปได้อีกด้วยด้วยความสามารถของ ICT ข้างต้น ทำให้ประชาชนเริ่มมองเห็น และตระหนักในศักยภาพ ของการนำICT มาใช้เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาที่แต่ละบุคคลประสบ มองหาผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน และมองหาผู้อื่นที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ เพื่อร่วมคิด แสดงความเห็น ให้คำปรึกษา และช่วยกันหาทางบรรเทาหรือแก้ไขปัญหานั้นๆ…
SenseMaker
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของโครงการจัดทำ แผนแม่บททางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารฉบับที่ 2 ของประเทศไทย เพื่อประกาศใช้ระหว่าง พ.ศ. 2552 – 2556 ยังอยู่ในระหว่างการเร่งจัดทำร่าง เพื่อประกาศใช้ให้ทันการเริ่มต้นใช้งานในปีหน้าข้าพเจ้ามีโอกาสได้อ่านแผนแม่บทฉบับร่างดังกล่าว ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เตรียมเพื่อใช้ประกอบการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ระหว่างวันที่ 4-13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะเป็นฉบับล่าสุด ที่กระทรวงฯเปิดเผยและประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะ (ท่านผู้อ่านสามารถอ่านข้อมูลของโครงการจัดทำแผ่นแม่บทนี้ เพิ่มเติม รวมทั้ง download เอกสารประกอบต่างๆได้ที่ http…
SenseMaker
หากท่านผู้อ่านได้อ่านบทความก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความเรื่อง “การเข้าถึงเทคโนโลยี ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความแตกต่างทางสังคม และสังคมในแนวขนาน” หรือเรื่อง “เว็บยุค2.0 สื่อพลเมือง และการท้าทายกระแสหลัก” และเรื่อง “ICT ตัวการแห่งการเปลี่ยนแปลง และผลลัพท์ทางสังคมที่ย้อนแย้ง” ข้าพเจ้าเชื่อว่าบทความเหล่านี้ จะทำให้ทุกท่านที่อ่านเริ่มตระหนัก ข้อเท็จจริงที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นของความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ว่า สังคมของเราทุกวันนี้ มีความหลากหลายทางระบบความคิด ความเชื่อ และมีความแตกต่างทางด้านค่านิยมมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมข้างต้น แน่นอนว่าไม่ได้ถูกผลักดัน ด้วยความก้าวหน้าทางด้าน ICT…
SenseMaker
“คนไทยลืมง่าย” คือคำนิยามหนึ่งที่อธิบายลักษณะความคิดและนิสัยของคนไทย ได้เป็นอย่างดี คนไทยเรามักเลือกที่จะลืมและให้อภัย กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะสร้างความเดือดร้อนใหญ่หรือเล็กเพียงใดหลายคนแสดงความเห็นว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเรามีอุปนิสัยเช่นนี้ เนื่องจากคนไทยเราส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลทางด้านความคิดจากพุทธศาสนา ซึ่งปลูกฝังให้คนเรารู้จักให้อภัยกันและกัน ทำให้คนในสังคมของเรา อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและเกื้อกูลกัน ซึ่งนี้คือสิ่งที่หลายคนเห็นว่า “การลืมง่าย” ก่อให้เกิดผลดีกับบ้านเมืองของเราอย่างไรก็ดีธรรมชาติของเหรียญย่อมต้องมีสองด้าน...…
SenseMaker
เป็นความตั้งใจของข้าพเจ้า ที่ปล่อยให้บทความที่แล้ว ยึดพื้นที่คอลัมน์ยาวกว่าปกติสักหน่อย เพื่อดึงความสนใจจากผู้อ่าน และอยากให้ทุกท่านตระหนักว่า แนวโน้มการ Outsourcing ขององค์กรต่างๆ กำลังส่งผลกระทบสำคัญ กับแนวทางการดำเนินชีวิตของทุกคน บทความวันนี้ ให้ความสนใจกับปัญหาความล้มเหลวของโครงการด้าน ICT ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่องค์กรต่างๆกำลังเผชิญหน้าอยู่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งค้นหาส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ ในการดำเนินโครงการด้าน ICT
SenseMaker
ต้องขอโทษท่านผู้อ่าน ที่ติดตามคอลัมน์กรองกระแส ICT ที่บทความสำหรับอาทิตย์นี้ต้องล่าช้าสักหน่อย เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ใคร่สบายเล็กน้อย ในช่วงวันเวลาที่จัดไว้สำหรับเขียนบทความในบทความที่แล้ว ข้าพเจ้าพยายามชี้ให้ทุกท่านเห็น ปรากฏการณ์ที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นที่สำคัญ ซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งในบริบทของผลกระทบจากภายนอกองค์กร ในรูปแบบของ การทำให้สภาพแวดล้อมในการแข่งขันเปลี่ยนแปลง และในบริบทของผลกระทบที่เกิดภายในองค์กร ในลักษณะของการทำให้ รูปแบบการทำงานและแนวการบริหารทรัพยากรองค์กร ต้องเปลี่ยนไปบทความในวันนี้…
SenseMaker
ICT ตัวแปรต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ที่ไม่ควรถูกมองข้าม ก่อนเข้าสู่บทความอาทิตย์นี้ ข้าพเจ้าขอประณามการกระทำ ของผู้ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากข้าพเจ้าถือว่า ใครก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง ไม่มีความรักชาติอย่างจริงจัง และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม หากทุกคน เล็งเห็นความสงบสุขและประโยชน์ ของประเทศเป็นสำคัญ จะต้องใช้วิธีประนีประนอม เพื่อหาหนทางแก้ปัญหา ความขัดแย้งทางความคิด ร่วมกัน มากกว่าการยึดเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ มองความคิดของอีกฝ่ายว่าไม่ถูกต้อง และมุ่งล้มล้างฝ่ายตรงข้าม…
SenseMaker
หลังจากที่ได้ขีดๆเขียนๆบทความ ในด้านที่ข้าพเจ้าเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมไทย และอยู่ในความสนใจของตัวเอง เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เป็นเวลาอันสมควร ที่ควรจะทำความเข้าใจ กับผู้ให้ความกรุณาแวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งขาประจำและขาจร ซึ่งมีอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงที่มาของคอลัมน์ “กรองกระแส ICT”จุดเริ่มต้นของคอลัมน์นี้ เกิดจากการที่ข้าพเจ้ามีความสนใจ และมีโอกาสศึกษาหาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ Information Technology (IT) และ ทางด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ หรือ Information System (IS) ประกอบกับประสบการณ์ในการทำงาน ในอุตสหกรรมโทรคมนาคม จนถือได้ว่า ข้าพเจ้าโชคดีที่มีความคุ้นเคยกับ ICT…
SenseMaker
บทความในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การได้รับทราบสองข่าว ซึ่งในความเห็นของข้าพเจ้า เป็นข่าวที่ไม่ได้อยู่ในกระแสความสนใจ ของคนไทยทั่วไปแต่อย่างไร แต่เป็นข่าวที่ข้าพเจ้า อยากเรียกร้องให้ทุกคน หันมาตระหนักถึงความน่ากลัว ของการถูกคุกคามโดย "Identity thief"Identity thief คือ กลุ่มคนที่มุ่งขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ใช้แสดงตัวตน ของบุคคลต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ใช้ข้อมูลดังกล่าวปลอมแปลงตนเป็นบุคคลผู้นั้น เพื่อหาประโยชน์อื่นๆต่อไปข่าวแรกที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกวิ่งราวกระเป๋าสตางค์ ภายหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งข้าพเจ้าเจ้าจำได้ไม่แน่นอนว่านานเท่าไหร่…
SenseMaker
“คู่แข่งกำลังลงทุนในเทคโนโลยี... เราจะรอช้าอยู่ไม่ได้ ต้องรีบดำเนินการผลักดันโครงการแบบเดียวกัน ให้เกิดขึ้นในทันที เพื่อตามให้ทัน และไม่ให้เราสูญเสียโอกาสทางการแข่งขัน"“เทคโนโลยี... กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก สร้างประโยชน์มากมายให้กับ ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือองค์กรนั้นองค์กรนี้ ดังนั้นเราจึงควรลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างเร่งด่วน”เหตุผลในทำนองข้างต้น เป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าได้ยินอยู่เป็นประจำ จากผู้มีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบาย ขององค์กรระดับต่างๆในประเทศไทย เพื่อนำเทคโนโลยีอันทันสมัย เข้ามาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางด้าน ICT
SenseMaker
เช้ามา...เปิดคอม เปิดเนต เช็คตารางนัด เช็คเมล ตอบเมล ล็อคอินเข้า MSN เอาไว้คุยกับเพื่อน หาข้อมูลจาก Google และ Wikipedia เข้าไปดูว่าเพื่อนๆทำอะไรกันบ้าง พร้อมกับอัพเดตของมูลตัวเองบน MySpace, Hi5 หรือ Facebook เข้าไปอ่านข่าว บทความ หรือกระทู้ จากแหล่งข้อมูลเฉพาะด้าน จาก Blog หรือสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่สนใจ เข้าไปดูวิดีโอแปลกๆ หรืออัพโหลดวิดีโอฝีมือตนเองบน Youtube เข้าไปอัพเดตรูปตัวเองหรือหารูปสวยๆบน Flickr และโทรหาใครหลายคน ไม่ว่าอยู่มุมไหนของโลกผ่าน Skypeชีวิตที่ดำเนินไปข้างต้น คงมีส่วนคล้ายกับชีวิตใครหลายคนในปัจจุบัน ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 30…