Skip to main content
วรรณกรรมเยาวชนรางวัลชมเชยประเภทบันเทิงคดีสำหรับเยาวชน ก่อนวัยรุ่น (12-14) จากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติปี 2530 และได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 100 เล่ม ที่เด็กและเยาวชนไทยควรอ่าน โดยฝีมือการประพันธ์ของนักเขียนซึ่งเป็นรู้จักกันดี "อัศศิริ ธรรมโชติ"


    เคยอ่านวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้นานมากแล้ว สมัยนั้นยังติดใจเสน่ห์ของงานเขียนแบบอัศศิริ ธรรมโชติ ที่มักจะเล่นกับอารมณ์ซึ้ง เศร้า หวาน จนสามารถพูดได้ว่าติดตามอ่านงานเขียนของเขาหมดแล้วทุกเล่มรวมทั้งเล่มนี้ด้วย แม้ว่าในเวลาต่อมาจะมองงานเขียนของอัศศิริ ธรรมโชติ ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป


หนังสือเล่มนี้จะพาผูอ่านไปพบกับวิถีชีวิตอันอาทรในแบบของชาวชนบท ซึ่งหาได้ยากแล้วในปัจจุบัน เป็นชนบทที่อบอุ่นด้วยน้ำใจไมตรีของคนบ้านเดียวกัน ผสานกันไประหว่างงานหนักในท้องไร่ ท้องนากับกิจกรรมการละเล่นอันหลากหลายเพื่อผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อย


ในท้องถิ่นชนบทแห่งนี้ ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์มากพอที่จะทำให้ชีวิตมั่นคง ใครทำมากก็ได้มาก ทำน้อยก็ได้น้อย เมื่อไม่ต้องแก่งแย่งแข่งขันกันเรื่องทรัพยากร ชีวิตก็สงบสุขกระทั่งมีน้ำใจไมตรีต่อกัน


เด็ก ๆ มีเสรีที่จะวิ่งเล่นไปในท้องทุ่งกว้าง สภาพธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาลนั่นล่ะคือสนามเด็กเล่นที่มีครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการหาปลากัดในบึงมากัดกัน กัดจิ้งหรีด การเล่นว่าว หรือสนุกสนานกันไปตามประสาในมหรสพงานวัด เหล่านี้เป็นทั้งสนามเด็กเล่นและห้องเรียนธรรมชาติที่สอนให้เด็ก ๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ


"มหกรรมในท้องทุ่ง" เป็นเหมือนบันทึกทางวัฒนธรรมของชาวนาภาคกลาง เช่น ประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าว หนังเร่-ซึ่งปัจจุบันเกือบจะไม่เห็นแล้วเพราะถูกแทนที่ด้วยหนังแผ่น และที่แปลกคือการเล่นเข้าทรงผี "แม่ศรี" ในเทศกาลสงกรานต์ที่คนและผีมาร่วมเล่นรื่นเริงด้วยกัน ไม่มีการแยกคน แยกผี

"แม่ศรีเอย...

แม่ศรีสาวสะ

ยกมือไหว้พระ จะมีคนชม

ขนคิ้วเจ้าต่อ ขนคอเจ้ากลม

ชักผ้าปิดนม

ชมแม่ศรีเอย..." (หน้า 130-131)


ในพิธีกรรม-การละเล่นนี้มีการอัญเชิญผี "แม่ศรี" มาร่วมร้องรำทำเพลงกับชาวบ้านและเด็ก ๆ โดยเลือกคนทรงมาคนหนึ่ง

"เชิญเอ๋ย... เชิญลง

เชิญพระองค์สิบทิศ

องค์ไหนศักดิ์สิทธิ์

ก็เชิญลงมา...

เชิญเอ๋ยเชิญลง

เชิญพระองค์เขาเขียว

ขี่ช้างงาเดียว

มาเข้าตัวน้องข้า...

เจ้าพญาผีเอย..." (หน้า 131)


แม่ผี "แม่ศรี" เข้าทรงแล้ว ความบันเทิงสนุกสนานก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น แม้แต่เด็กๆ ก็ไม่หวาดกลัวผี ผู้เขียนบรรยายว่า


"ศรีนวล หลับตาพริ้ม แต่เธอลุกขึ้นร่ายรำอ่อนไหวไปกับเสียงเพลงที่ร่ำร้อง-ผีแม่ศรีและปู่เจ้ามาจากขุนเขาที่ไหนบ้างและทำไมถึงมาได้เล่นเต้นสนุกอยู่เฉพาะกับงานสงกรานต์นั้นไม่เคยมีใครคิดถามหรือว่าคิดอยากจะรู้ ทั้งผีและคนแม้เด็ก ๆ ในเทศกาลเช่นนี้ไม่มีใครหวาดกลัวใคร เส้นสายใยที่โยงไว้กับตัวของแม่ศรีในร่างของเด็กนั้นมีเพียงแค่ผ้าบางที่คอยดึงเอวเอาไว้มิให้รำออกไปไกลห่างกับสำเนียงเสียงร้องด้วยท่วงทำนองต่าง ๆ กัน เมื่อเพลงหยุด แม่ศรีก็ล้มลงในอ้อมแขนของลำไย" (หน้า 131-132)


นวนิยายขนาดสั้นที่จบในตอนเรื่องนี้เชื่อมโยงกันไว้ด้วยกิจกรรมการละเล่นของเด็ก ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ความเป็นชนบทถูกเล่าผ่านตัวละครสองวัยคือเด็กๆ และผู้เฒ่าผู้แก่ซึ่งดูจะไม่แตกต่างกันมากนัก ทั้งยังได้สอดแทรกปัญหาสังคมหรือปัญหาการพัฒนาที่กำลังจะมาสู่ชุมชนไว้พอหอมปากหอมคอ เช่น การสร้างเขื่อน


การเลือกใช้ถ้อยคำของผู้เขียนนั้นดูเหมือนง่าย ไหวเอนเหมือนต้นข้าว เรียบง่ายเหมือนรูปแบบชีวิตของตัวละคร แต่อันที่จริงแล้วเป็นความสามารถเฉพาะตัวของนักเขียนที่ผ่านการฝึกฝน ขัดเกลามาอย่างดี


หลังจากที่หวนกลับไปอ่านอีกครั้ง ความถวิลอาวรณ์วัยเยาว์หวนกลับมาแม้จะไม่สวยงามเหมือนและสนุกสนานเหมือนตัวละครในหนังสือก็ตามทั้งยังตระหนักได้ว่าคนโบราณและของโบราณ ประเพณี พิธีกรรมในอดีตนั้นรุ่มรวยและสวยงามแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม.

 

 

บล็อกของ นาลกะ

นาลกะ
วรรณกรรมที่นำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ หลายครั้งมักถูกวิจารณ์ว่าทำไม่ได้ดีเท่าตอนเป็นหนังสือ แต่ “ผีเสื้อและดอกไม้” ต่างออกไป สวยงามในคราที่เป็นหนังสือและสมบูรณ์แบบแทบไร้ที่ติเมื่อเป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายประมาณปี 2528 ด้วยผลงานการกำกับของยุทธนา มุกดาสนิท และรับบทนำโดย สุริยา เยาวสังข์ ซึ่งเคยมีชื่อเสียงเปรี้ยงปร้างอยู่ระยะหนึ่งก่อนจะเงียบหายไป ผมเคยอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้ตั้งแต่เรียนมัธยม เพราะเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาที่อาจารย์ภาษาไทยบังคับให้อ่านโดยให้เลือกเอาระหว่าง “ข้างหลังภาพ” กับ “ผีเสื้อและดอกไม้” ผมเลือกอ่าน “ผีเสื้อและดอกไม้” ด้วยเหตุผลที่ว่า “ข้างหลังภาพ” เป็นเรื่องเกี่ยวกับรัก ๆ ใคร่ ๆ…
นาลกะ
  "ผีน้อยโลกมายา" คือวรรณกรรมเยาวชนรางวัลพระราชทานแว่นแก้ว โดยได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดประจำปี 2544 เขียนโดย วันทนีย์ วิบูลกีรติ และจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค "ผีน้อยโลกมายา" เล่าถึงเรื่องราวของผีน้อยขี้สงสัยที่อาศัยอยู่ในดินแดนมายาอันเป็นดินแดนของผีที่ความทุกข์ไม่อาจกล้ำกราย ผีน้อยมีพ่อเป็นพระจันทร์และแม่คือดวงดาว มีพี่สาวใจดีชื่อพี่ดารา แม้ว่าในดินแดนมายาจะมีความสงบสุขและเสียงหัวเราะ แต่ความช่างสงสัยใคร่รู้ทำให้ผีน้อยยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี
นาลกะ
เรียวรุ้งเหนือทุ่งกว้าง เป็นวรรณกรรมเยาวชนรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนำงานที่ชนะการประกวดใน โครงการพัฒนาทักษะด้านการเขียนวรรณกรรมสำหรับเยาวชน มารวมเล่ม โครงการนี้เกิดจากการร่วมมือของกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ กับบริษัทนานมี บุ๊ค จำกัด โดยได้อัญเชิญวรรณกรรมเยาวชนในพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพเรื่อง แก้วจอมซน และ แก้วจอมแก่น มาจุดประกาย
นาลกะ
"ย่ำสวนป่า" เป็นเรื่องเล่าจากชนบทที่มีกังวานเสียงแห่งความภาคภูมิใจกับการที่ได้เกิดมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมของสวนป่าที่มีสิ่งให้เรียนรู้ได้ไม่รู้จบ และมีรูปแบบชีวิตที่สัมพันธ์เกี่ยวโยงอยู่กับความเป็นไปของธรรมชาติผู้เล่าเรื่องบอกไว้ในตอนท้าย หลังจากที่ปลดปล่อยความทรงจำวัยเด็กให้ออกมามีชีวิตวิ่งเต้นบนหน้ากระดาษเสร็จแล้วว่า"มันไม่ใช่ความอาลัยอาวรณ์อีกต่อไป แต่เป็นความทรงจำแสนสนุกที่ผมไม่คิดจะลืมเลือน ผมจะจดจำไว้ว่าที่นี่... คือบ้านเก่าของผม..." (หน้า 118)
นาลกะ
ความโหดร้ายของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวที่ทำให้มียอดคนตายถึง 6 ล้านคนนั้นมีประเด็นและเรื่องราวให้พูดถึงได้ไม่รู้จบกระทั่งปัจจุบัน ศิลปะภาพยนตร์และวรรณกรรมเรื่องแล้วเรื่องเล่าที่นำเอาการฆาตกรรมหฤโหดมาเสนอในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ถึงความไร้เหตุผลของมนุษย์ที่นำไปสู่การทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งมนุษย์ด้วยกันเอง “ชะตาลิขิต” วรรณกรรมแปลจากสำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค เป็นอีกเล่มหนึ่งที่พูดถึงเรื่องนี้โดยตรงและพรรณนาสภาพเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้นในตอนนั้นไว้อย่างละเอียดลออทั้งนี้เพราะตัวผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มี ประสบการณ์ตรงจากการถูกกวาดต้อนเข้าไปอยู่ในค่ายกักกันตั้งแต่เด็ก…
นาลกะ
หนังสือเรื่อง “ลูก(ผู้)ชายหัวใจคุณพ่อ” หรือ “Man and Boy” ที่เขียนโดย Tony Parsonsเป็นหนึ่งในหนังสือวรรณกรรมที่อยากแนะนำให้อ่านโดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อหม้าย/แม่หม้าย หรือคนที่กำลังจะเป็นพ่อหม้าย/แม่หม้ายหรือคนที่กำลังคิดจะแต่งงาน หรือคนที่กำลังจะมีตัวเลขอายุเข้าสู่ 30 หนังสือเปิดตัวอย่างน่าสนใจในบทที่หนึ่ง โดยบอกถึงสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของการเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวตอนอายุสามสิบว่า “มีสัมพันธ์รักข้ามคืนกับเพื่อนร่วมงาน” “ซื้อของฟุ่มเฟือยที่แทบไม่มีปัญญาซื้ออย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง” “ถูกภรรยาทิ้ง” “ตกงาน” “รับภาระเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพังโดยกะทันหัน”…
นาลกะ
ไม่กี่วันก่อน ผมได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่อง "Lassie Come Home " ทางเคเบิลทีวี ซึ่งน่าสนใจและน่าประทับใจดี จึงหาหนังสือมาอ่านพบว่าหนังสือเล่มนี้ได้แปลเป็นไทยนานแล้ว โดย ร.ท.นิพนธ์ กาบสลับพล และจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สุขภาพใจ "แลสซี่" ถือกำเนิดจากปลายปากกาของนักเขียนเชื้อสายอังกฤษ-อเมริกัน เอริค ไนท์ (Eric Knight) ในรูปแบบเรื่องสั้น ตีพิมพ์ลงใน Saturday Evening Post เมื่อปี 1938 และผู้เขียนขยายเป็นนวนิยายในปี 1940 ซึ่งประสบความเป็นอย่างดี Lassie ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้งหลายหนรวมทั้งเป็นซีรี่ส์ทางจอโทรทัศน์โดยมีดาราฮอลลีวู้ดระดับตำนานนำแสดง ไม่ว่าจะเป็น อลิซาเบธ เทย์เลอร์, มิคกี้ รูนี่ย์,…
นาลกะ
วรรณกรรมเยาวชนส่วนใหญ่ มักมุ่งเน้นให้เยาวชนขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียน เรียนให้จบชั้นสูง ๆ เพื่อที่จะได้มีอาชีพการงานที่ดีในอนาคต หรืออดทนกัดฟันสู้ต่อความยากลำบาก ต่อความด้อยโอกาสกระทั่งเอาชนะได้ในที่สุด กล่าวอีกแบบก็คืออดทนทำดีเข้าไว้เพื่อตัวเองนั่นแหละที่จะได้ดี หรือถ้าไม่เป็นไปตามลักษณะข้างต้น วรรณกรรมเยาวชนที่เขียน ๆ กันก็มักจะเน้นการใช้จินตนาการจนหลุดลอยจากโลกแห่งความเป็นจริง กลายเป็นวรรณกรรมเยาวชนเชิงแฟนตาซีที่อะไร ๆ ก็ดูสวยงามไปหมด เหมือนเป็นการพาเยาวชนคนอ่านหลบหนีไปจากโลกจริงสู่โลกจินตนาการของภาษา แต่วรรณกรรมเรื่อง “กะลาสีเรือผู้กล้าหาญ” ประพันธ์โดย “จังว่าง”…
นาลกะ
น่าดีใจที่สำนักพิมพ์ “นานมีบุ๊ค” พิมพ์วรรณกรรมเยาวชนออกมาอย่างต่อเนื่องโดยคัดกรองเอาจากการประกวดรางวัล “แว่นแก้ว” แม้ว่าวรรณกรรมที่ผ่านเข้ามาบางเรื่องอาจไม่อยู่ในระดับที่ดีนัก นอกจากจะเป็นการปลุกการอ่านและการเขียนวรรณกรรมเยาวชนให้กระเตื้องขึ้นบ้างแล้วยังถือเป็นการให้ความสำคัญกับเด็ก ๆ ที่น่ารักน่าชังในอีกโสดหนึ่งด้วย “กระเบนยักษ์คู่อาฆาต” ผลงานของ “เพชร บุตรทองพูน” เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผ่านคัดกรองจากรางวัลวรรณกรรมเยาวชนพระราชทาน “แว่นแก้ว” ซึ่งยืนยงและหนักแน่นในการสร้างสรรค์วรรณกรรมเยาวชนมานานหลายปีจนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นรางวัล “แว่นแก้ว” เป็นสถาบันทางวรรณกรรม…
นาลกะ
วรรณกรรมเยาวชนรางวัลพระราชทาน “แว่นแก้ว” เรื่อง “คำใส” นี้ได้รับรางวัลชนะเลิศประจำปี 2546 ประเภทนวนิยาย ส่งเข้าประกวดโดย “วีระศักดิ์ สุยะลา” นักเขียนหน้าใหม่จากจังหวัดอุบลราชธานี และจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ “นานมีบุ๊ค” สำนักพิมพ์ที่เล็งเห็นความสำคัญของวรรณกรรมเยาวชน จุดเด่นของวรรณกรรมเรื่องนี้ คือ การฉายให้เห็นถึงความเป็นไปของชนบทภาคอีสานที่กำลังอยู่ในกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง เป็นความเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์อย่างแยกไม่ออกกับโลกภายนอกหมู่บ้าน ดังนั้นเราจึงได้พบว่า เมื่อมีปัญหาทางการเงิน ตัวละครบางตัวจึงตัดใจทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลังเพื่อเข้ามาทำงานขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพ ฯ…
นาลกะ
“รุ่งอรุณ สัมปัชชลิต” แปลเรื่อง จากเถ้าธุลี จากต้นฉบับ Out of the Ashes ที่เขียนโดย “Michael Morpurgo” นักเขียนชาวอังกฤษที่เป็นที่รู้จักมากคนหนึ่งในฐานะนักเขียนวรรณกรรมเยาวชน จนถึงปัจจุบัน “Michael Morpurgo” มีผลงานทั้งหมด 95 เรื่อง ได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ทั่วโลกกว่ายี่สิบภาษาและนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ห้าเรื่องด้วยกัน เขาได้รับรางวัลทางด้านวรรณกรรมเยาวชนมากมาย เช่น รางวัล The Children’s Book Award, The Whitbread Award นอกจากนี้ เขายังได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงสุดด้านวรรณกรรมสำหรับเด็กของประเทศอังกฤษ
นาลกะ
หลังการจากไปของลัทธิจักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ประเทศคองโกก็ประสบกับความวุ่นวายเพราะชนชั้นนำแย่งชิงอำนาจกันเอง กระทั่งได้ผู้นำที่เข้มแข็งจนจัดตั้งระบอบ “ปฏิวัติ” ที่วางรากฐานอยู่บนสิ่งที่เรียกว่า “ลัทธิสังคมเชิงวิทยาศาสตร์” ระบอบการปกครองใหม่มาพร้อมกับกติกากฎเกณฑ์และสัญลักษณ์ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เพลงชาติ ชื่อประเทศ ธงชาติกลายเป็นสีแดง มีการเพิ่มดาว ค้อน เคียว มีการห้ามสวดมนต์ ร้องเพลง และห้ามคิด จะเดินทางไปไหนมาไหนต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานของทางการ ฟังดูคล้ายกับยุคสมัยแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรมในสมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและสัญลักษณ์ทางการเมืองอย่างมโหฬาร…